ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” จัดงาน Thailand Domestic MICE Mart 2016 นำผู้ซื้อและผู้ขายกว่า 500 รายเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ คาดเกิดการเจรจาซื้อขายกว่า 500 ล้านบาท เตรียมชูเป็นเวทีเจรจาธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศภายใน 5 ปี พร้อมเดินหน้า 4 โครงการหลัก ส่งเสริมและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนให้ธุรกิจไมซ์ในประเทศ นำไปสู่การกระจายรายได้ให้เศรษฐกิจไทย
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” กล่าวถึงการจัดงาน “Thailand Domestic MICE Mart 2016” ระหว่างวันที่ 30-31 พ.ค.59 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือของผู้มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมไมซ์และผู้ประกอบการในธุรกิจไมซ์ของประเทศไทย ก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยถือเป็นอีกหนึ่งการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบาย “ประชารัฐ” ที่เน้นการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน โดยคณะผู้จัดงานมุ่งหวังจะพัฒนาให้เป็นงานแสดงสินค้าหรือ Trade Show ชั้นนำระดับประเทศภายใน 5 ปี
ในงานนี้มีผู้ขาย (Sellers) มากกว่า 250 ราย ได้แก่ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ ผู้ประกอบการจากไมซ์ซิตี้ และเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 10 จังหวัดที่จะนำเสนอสินค้าและบริการด้วยโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เพื่อกระตุ้นองค์กรต่างๆ ให้เกิดการเดินทางและจัดกิจกรรมมากขึ้น อาทิ แพ็คเกจการประชุม สัมมนา หรือ Incentive Trip ในพื้นที่โครงการพระราชดำริ ทั้งแบบเต็มวัน หรือครึ่งวัน แบบ 2 วัน 1 คืน และแบบ 3 วัน 2 คืน เป็นต้น โดยตั้งเป้าผู้ซื้อ 300 รายซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทางด้านการจัดประชุมองค์กรและการจัดทริปให้พนักงานจากทั้งองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน โดยคาดว่าจะเกิดการเจรจาซื้อขายที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
“การส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในประเทศหรือ Domestic MICE ถือเป็นพันธกิจสำคัญของ “ทีเส็บ” ในฐานะผู้ขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์ โดยจากปีงบประมาณ 2558 พบว่ามีนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศจำนวน 23 ล้านคนต่อครั้ง สร้างรายได้จากการใช้จ่าย 4.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในปีงบประมาณ 2559 มีเป้าหมายของจำนวนนักเดินทาง 24 ล้านคนต่อครั้ง และสร้างรายได้ถึง 4.7 หมื่นล้านบาท”
สำหรับกิจกรรมเด่นที่น่าสนใจภายในงาน ได้แก่ การจับคู่เจรจาธุรกิจ (Trade Meet) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการรวบรวมธุรกิจบริการทุกแขนงในอุตสาหกรรมไมซ์มารวมกัน เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ โปรโมชั่นพิเศษสำหรับการจัดประชุมสัมมนาและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ ให้ผู้ซื้อได้มีทางเลือกที่หลากหลายและสามารถเรียนรู้ถึงการเพิ่มมูลค่าในการจัดประชุมสัมมนาในทุกทริปขององค์กร
นอกจากนั้นยังมีงานสัมมนาให้ความรู้จากวิทยากรพิเศษผู้มีประสบการณ์ในหัวข้อที่หลากหลายเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจตัวเองในหัวข้อ “รู้ลึก ฝึกจริง ในธุรกิจไมซ์”, “New Market Opportunity” และหัวข้อ “Domestic Plus” โดยวิทยากรที่มีประสบการณ์ในแต่ละประเด็น และกิจกรรม “Best Practice in Bangkok” Inspection Trip สำหรับผู้ประกอบการไมซ์จากต่างจังหวัด โดยแบ่งเป็น เส้นทางที่ 1 “เรียนรู้ วิธีการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ จากงานอีเว้นท์ใกล้ตัวคุณ” (กรณีศึกษา) ณ อิมแพค เมืองทองธานี และเส้นทางที่ 2 คือ ศึกษาดูงาน เพื่อมุ่งสู่การยกระดับและสร้างมาตรฐานธุรกิจและบริการผ่านมุมมองการบริหารงานจากโรงแรม “มาตรฐาน TMVS” (Thailand MICE Venue Standard)
นายนพรัตน์ กล่าวด้วยว่า เมื่อรัฐบาลได้กำหนด “นโยบายประชารัฐ” และมีการจัดตั้ง คณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ “ทีเส็บ” ได้ร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานดังกล่าว โดยกำหนดแผนการส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในประเทศ ประจำปี 2559 ด้วย 4 โครงการหลักซึ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายประชารัฐ ให้มีความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม หรือชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วย
1.โครงการส่งเสริมให้เกิดการต่อเนื่องของแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมโปรโมชั่นการขายเพื่อกระตุ้นการจัดงานไมซ์ เน้นย้ำให้มีการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการด้านอุตสาหกรรมไมซ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นแคมเปญที่คณะทำงานสานพลังประชารัฐฯ นำไปเป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ในประเทศอย่างเร่งด่วน โดยมี 21 องค์กร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เช่น กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์การการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.), หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสมาคมต่างๆ ที่ผนึกกำลังเพื่อสนับสนุนให้บริษัทเอกชนในเครือข่ายจัดประชุม สัมมนา และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย อย่างน้อย 1 บริษัท ต่อ 1 ประชุม หรือ 1 ทริปในต่างจังหวัดภายในปี 2559
2.โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมไมซ์ในพื้นที่พิเศษ โดยชูโครงการพระราชดำริภายใต้กิจกรรม 3 ปีติ หรือ 3 วาระมงคลของชาวไทยในปีนี้ คือ 1.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 2.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ 88 พรรษา และ 3.) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ถือเป็นอีกโครงการที่ลูกค้ากลุ่มองค์กรสามารถเข้าไปทำกิจกรรมในพื้นที่โครงการพระราชดำริ โดย “ทีเส็บ” จะร่วมสนับสนุนค่าพาหนะในการเดินทางสำหรับองค์กรจัดกิจกรรมไมซ์ในพื้นที่โครงการพระราชดำริกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจองแพ็คเกจประชุมผ่าน 44 บริษัททัวร์ชั้นนำ หรือเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนำกลับมาต่อยอดองค์ความรู้เพื่อไปพัฒนาองค์กรและบุคลากรต่อไป
3.โครงการส่งเสริมตลาด Destination Promotion โดยสร้างการรับรู้ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่สามารถรองรับธุรกิจไมซ์ โดย “ทีเส็บ” มีเป้าหมายจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน 10 พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษในปีงบประมาณ 2559 ประกอบด้วย หนองคาย, นราธิวาส, เชียงราย, นครพนม, กาญจนบุรี, ตาก มุกดาหาร, สระแก้ว, สงขลา, และตราด นับเป็นการช่วยกระตุ้นธุรกิจไมซ์ทั้งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ต่อเนื่องไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) สร้างองค์ความรู้ด้านไมซ์ ขยายการเติบโตของเศรษฐกิจหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งจะทำให้ไทยก้าวไปสู่ศูนย์กลางไมซ์ระดับอาเซียน รวมทั้งส่งเสริมการจัดงานไมซ์ 300 กิโลเมตรรอบกรุง โดย “ทีเส็บ” จะจัดทำฐานข้อมูลในแบบออนไลน์และออฟไลน์ความพร้อมของ 14 จังหวัดคือ พระนครศรีอยุธยา, สมุทรสงคราม, นครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, กาญจนบุรี, นครนายก, ปราจีนบุรี, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด และนครราชสีมา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้
4.โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมไมซ์ เน้นให้การสนับสนุนกับหน่วยงานภาคีที่มีศักยภาพในการจัดประชุมสัมมนา อาทิ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
ด้าน นายกลินท์ สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “งาน Thailand Domestic MICE Mart 2016 แม้จะถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แต่ในปีนี้ถือเป็นโปรเจ็คท์นำร่องภายใต้แคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” นับเป็น 1 ใน 10 โครงการระยะเร่งด่วน (Quick Win) ของคณะทำงานสานพลังประชารัฐ : การส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อผนึกกำลัง ภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
ในส่วนของภาคเอกชนได้สนับสนุนให้องค์กรภายในเครือข่าย ร่วมกันดำเนินการส่งเสริมการจัดประชุม สัมมนา และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive Tour) ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด อย่างน้อย 1 ประชุม หรือ 1 ทริป ต่อ 1 บริษัท เพื่อช่วยกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่นและชุมชน เพิ่มการใช้จ่ายในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยคณะทำงานสานพลังประชารัฐฯ ได้ให้การสนับสนุน โดยร่วมเชิญกลุ่มผู้ซื้อ (Buyers) ซึ่งเป็นสมาชิกจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ 21 องค์กรเครือข่ายที่ได้เซ็น MOU ร่วมกัน