“เบอร์เกอร์คิง” โหมไดรฟ์ทรู-เพิ่มคนไทย “ไมเนอร์” รับสิทธิ์ขยายตลาดพม่า

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไมเนอร์ฟู้ด” รับสิทธิ์ขยายตลาด “เบอร์เกอร์คิง” ไปพม่า ส่วนในไทยปีนี้ทุ่มงบ 425 ล้านบาท รุกหนักผุดอีก 15 สาขา โหมไดรฟ์ทรูตัวชูโรง คาดทั้งปีเติบโต 50% พร้อมเร่งขยายฐานตลาดคนไทย

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไมเนอร์ฟู้ด กรุ๊ป ผู้รับสิทธิ์ทำตลาดร้าน “เบอร์เกอร์คิง” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์จากบริษัทแม่ของเบอร์เกอร์คิงในการขยายตลาดเบอร์เกอร์คิงในประเทศพม่าแล้ว โดยคาดว่าจะเปิดสาขาแรกที่สนามบินย่างกุ้งไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปี 2559 จากเดิมที่ทำตลาดเฉพาะในไทย

ส่วนแผนธุรกิจในไทยปี 2559 จะใช้งบลงทุนรวม 425 ล้านบาท แยกเป็นงบการตลาด 50 ล้านบาท และงบลงทุนสาขา 375 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 15 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 25 ล้านบาทต่อสาขา แบ่งเป็นเปิดร้านแบบไดรฟ์ทรู 8 สาขา ส่วนที่เหลือเป็นร้านมาตรฐาน จากปัจจุบันที่มีสาขารวม 60 สาขา จึงคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขาแบบไดรฟ์ทรูประมาณ 18 สาขา

รูปแบบไดรฟ์ทรูของ “เบอร์เกอร์คิง” มีการเติบโตอย่างดีและรวดเร็วเพราะเน้นทำเลที่เหมาะสม โดยไม่ได้ผูกติดเป็นพันธมิตรกับใครโดยเฉพาะ โดยขณะนี้มีสาขาแบบไดรฟ์ทรูแล้วทั้งในสถานีบริการน้ำมัน เช่น เอสโซ่, เชลล์, ปตท., บางจาก, คาลเท็กซ์ เป็นต้น

บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยมากขึ้น โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนคนไทยเป็น 60% ภายในปี 2560 จากปัจจุบันเป็นลูกค้าคนไทย 55% และต่างชาติ 45% จากฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการร้านเบอร์เกอร์คิงทุกสาขารวมกันประมาณ 4.5 หมื่นคนต่อเดือน โดยเฉลี่ยมีการใช้จ่ายประมาณ 250 บาทต่อคนต่อครั้ง เพราะที่ผ่านมาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงอื่นๆ ทำให้เกิดความไม่แน่นอน บางช่วงจึงมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติมากแต่บางช่วงก็ลดลงจึงต้องการขยายตลาดมายังกลุ่มคนไทยมากขึ้น

สำหรับปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 50% จากรายได้ปีที่แล้ว 2 พันกว่าล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายแล้ว ขณะที่ “เบอร์เกอร์คิง” มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 28% จากมูลค่าตลาดรวมเบอร์เกอร์ในไทยที่มีประมาณ 7-8 พันล้านบาท เติบโต 10-20%

ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวเมนูใหม่ “เบอร์เกอร์ วอปเปอร์หมู” เป็นครั้งแรกขนาด 5 นิ้ว จากเดิมมีแต่เนื้อวัวเป็นหลัก ซึ่งการออกเมนูหมูนี้เพื่อเป็นการขยายฐานคนไทยตามแผนงานส่วนหนึ่งด้วย โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากหมูจะเพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันมี 10% และสัดส่วนรายได้จากเนื้อวัว 70% จากไก่ 20%