“เต็ดตรา แพ้ค” อัปเกรดไฮเทค ขยายบรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหาร

ผู้จัดการรายวัน 360 - กระแสรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อมยังแรงไม่หยุด ส่งผลผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภค “เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย” ผู้นำบรรจุภัณฑ์ระดับโลกซุ่มพัฒนากลุ่มบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมก้าวหน้า หวังขยายฐานลูกค้าเก่าจากเครื่องดื่มสู่กลุ่มอาหารเพิ่มขึ้น พร้อมเดินเกมตลาดเน้นสร้างการรับรู้สู่กลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี

นางสาวรัตนศิริ ติลกสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ถือเป็นผู้นำอุตสาหกรรมกระบวนการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ระดับโลก มีสำนักงานกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยในส่วนของประเทศไทยได้ดำเนินการมานานกว่า 40 ปีแล้ว จนปัจจุบันถือเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยูเอชทีประเภทต่างๆ ในฐานะ Full System Supplier เพียงรายเดียวในประเทศไทยให้แก่บริษัทต่างๆ ในประเทศไทยมากกว่า 40 ราย โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้ประมาณ 80- 90% นมพร้อมดื่มมากกว่า 50% นอกจากนั้นยังมีนมถั่วเหลืองและเครื่องดื่มธัญพืช รวมถึงชาพร้อมดื่ม และอื่นๆ

แม้ว่าภาพรวมของตลาดอาหารเหลวและเครื่องดื่มของประเทศไทยในปี 2558 ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว อันเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและความมั่นใจของผู้บริโภคที่ลดน้อยลง แต่ผู้ผลิตหลายๆ รายยังคงมีการพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังข้อมูลของบริษัทฯ ที่สำรวจพบว่ามีการผลิตนมพร้อมดื่มออกสู่ตลาดจำนวน 1,666 ล้านลิตร นมถั่วเหลืองและเครื่องดื่มธัญพืช 748 ล้านลิตร น้ำผลไม้ 143 ล้านลิตร และชาพร้อมดื่ม 660 ล้านลิตร

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ถือว่ายังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องตามอัตราการเติบโตของลูกค้าซึ่งหลายรายเน้นการส่งออกมากขึ้น ทั้งยังถือว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตของตลาด FMCG ในระดับ 3% เมื่อปี 2558 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4% ในปี 2559 หลังจากในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5%

นางสาวรัตนศิริกล่าวด้วยว่า ในปี 2559 บริษัทฯ มีแนวทางการดำเนินงานด้านการตลาดด้วยการนำเสนอนวัตกรรมด้านดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ภายในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับภูมิภาค “THAIFEX-World of Food Asia 2016” ระหว่างวันที่ 25-29 พ.ค. 59 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจะมีการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องดื่มและอาหารกลุ่มใหม่ๆ เช่น กาแฟ เครื่องดื่มเกลือแร่ ซุป ซอส ผักและผลไม้ต่างๆ

ปัจจุบันการใช้บรรจุภัณฑ์ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยเริ่มเป็นในแนวทางเดียวกันกับกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม จึงส่งผลให้ผู้ผลิตหลายรายเริ่มหันมาให้ความสำคัญในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่จะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งขันในตลาด

“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ จึงมีการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารและนวัตกรรมกล่องบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในกลุ่มบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมก้าวหน้า หรือ Advanced Format ที่ได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายในการใช้งาน เปิดดื่มได้ง่าย สามารถเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิห้องได้โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นและปราศจากสารกันบูดทั้งยังประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ตลอดจนช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้พื้นที่ของบรรจุภัณฑ์ทำการสื่อสารแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย”

สำหรับบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ มี 3 รูปแบบใหม่ คือ 1. กล่องรุ่น “เต็ดตรา พริสม่า อะเซ็ปติค 330 พร้อมฝาดรีมแคป” (Tetra Prisma Aseptic 330 with DreamCap) ปริมาตรเครื่องดื่มขนาด 330 มล. ซึ่งมีเอกลักษณ์สะดุดตา ตอบโจทย์การใช้งานตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยรูปทรงแบบเหลี่ยมปริซึมเอื้อต่อการหยิบจับด้วยมือ เหมาะแก่การพกพาอย่างสะดวก โดยมีฝาดรีมแคปขนาด 26 มม. ซึ่งผ่านการวิจัยแล้วพบว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมต่อผู้บริโภคในการดื่มเครื่องดื่ม

2. กล่องรุ่น “เต็ดตรา บริค อะเซ็ปติค เอดจ์ (Tetra Brik Aseptic Edge) ซึ่งมีเหลี่ยมมุมลาดเอียงด้านบนของกล่อง โดยพื้นผิวตัวกล่องทั้ง 5 ด้านบนฐานทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสยังสามารถใช้พิมพ์ลวดลายเพื่อเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ในการสร้างความโดดเด่นและความดึงดูดใจบนชั้นวางสินค้าแก่ผู้บริโภคได้มากขึ้น

3. กล่องบรรจุอาหาร “เต็ดตรา รีคาร์ท” (Tetra Recart) ถือเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษชนิดแรกในโลกที่สามารถบรรจุอาหารชิ้นแบบ Retort ที่ทนต่อความร้อนและความดันสูง โดยคาดว่าจะเข้ามามีบทบาทแทนที่บรรจุภัณฑ์อาหารประเภทกระป๋องและขวดแก้ว เหมาะสำหรับอาหารประเภทผัก มะเขือเทศ ถั่วในซอสมะเขือเทศ อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน อาหารสัตว์ ซุป และซอส เป็นต้น

อนึ่ง บริษัทฯ ยังร่วมมือในการรณรงค์สร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของกระบวนการจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ และระบบการติดฉลาก FSC™ จากองค์การจัดการด้านป่าไม้ (Forest Stewardship Council™) ลงบนกล่องบรรจุภัณฑ์ เพื่อยืนยันว่าวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ได้มาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์