![“ทวี ปิยะพัฒนา” (กลาง) ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี., “ธวัชชัย รัตนพิสิฐ” (ขวา) กรรมการบริหาร และ “ปิยกาญจน์ ปิยะพัฒนา” (ซ้าย) กรรมการบริหาร [แฟ้มภาพ]](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/559000005330201.JPEG)
ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มพี.เอฟ.พี. เร่งเครื่องขยายตลาดต่างประเทศ โหมหนักตลาดกลุ่มฮาลาล ร่วมมือคู่ค้าตั้งโรงงานในมาเลเซียเป็นฐานผลิตรุกฮาลาล พร้อมเจาะตลาดตะวันออกกลางเพิ่ม หวังรายได้ทั้งกลุ่มปีนี้เติบโต 10%
นายธวัชชัย รัตนะพิสิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มี สัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 40% และในประเทศ 60% จึงมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ อย่างตลาดฮาลาล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกสินค้าและบริการฮาลาลของไทยให้ติดใน 1 ใน 5 อันดับของโลภภายใน 5 ปี
นอกจากนั้นยังคงขยายต่อเนื่องทั้งในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทั้งช่องทางการจำหน่ายและการเพิ่มปริมาณการส่งออก โดยในปี 2559 ตั้งเป้ารายได้ต่างประเทศเติบโต 10% จากรายได้ส่งออกปี 2558 ที่ทำได้ 1.3 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนมาจากเอเชีย 72%, ยุโรป 12%, อเมริกาเหนือ 8%, โอเชียเนีย (ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) 8% และคาดหวังรายได้ของทั้งกลุ่มบริษัทจะเติบโต 10% จากรายได้รวมปีที่แล้ว 4.5 พันล้านบาท
การเติบโตในตลาดต่างประเทศจะมาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ 1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองลูกค้าและรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนไป 2.การเพิ่มปริมาณการซื้อของลูกค้าจากเดิม 5-10% ด้วยการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆ 3.การแสวงหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางการออกงานแสดงสินค้าในตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศมุสลิม
นายธวัชชัย กล่าวว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการดำเนินการตั้งโรงงานในประเทศมาเลเซียโดยจะเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มซิม พี ฮวท (SIM PEE HUAT) ซึ่งเป็นเอเย่นต์เดิมและมีการทำการค้ากันมานาน เพื่อตั้งโรงงานการผลิตในระบบฮาลาลโดยเฉพาะเพื่อเป็นฐานส่งออกไปตลาดฮาลาลทั่วโลก คาดว่าลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท พื้นที่การผลิต 1.2 พันตารางเมตร คาดว่าปีหน้าจะเริ่มดำเนินการได้ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ส่งออกไปมาเลเซียเฉลี่ย 100 ตันต่อเดือน
นางสาวปิยกาญจน์ ปิยะพัฒนา กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. กล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายตลาดฮาลาลอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้ทำการเจรจากับคู่ค้าในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นตั้งเป้าหมายส่งออกประมาณ 30 ตันต่อปี และมีเป้าหมายที่จะส่งออกไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มเฉลี่ย 50% ต่อปีตามสัญญานาน 5 ปี
“ในช่วงปลายปียังมีแผนที่จะออกงานแสดงสินค้าด้านอาหารที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเพื่อขยายตลาดซึ่งยังไม่มีลูกค้าแต่อย่างใด ส่วนในจอร์แดนก็จะขยายต่อเนื่อง จากแต่เดิมยอดขายตลาดฮาลาลของกลุ่มพี.เอฟ.พี.มาจากในเอเชียเป็นหลัก เช่น มาเลซีย อินโดนีเซีย และบรูไน แต่ขณะนี้กำลังเราจะขยายไปยังตะวันออกกลางมากขึ้น เพราะสินค้าของเราส่วนใหญ่เป็นฮาลาลอยู่แล้ว”
ล่าสุดภายในงานแสดงสินค้าและอาหารระดับนานาชาติ “THAIFEX-World of Food Asia 2016” ระหว่างวันที่ 25-29 พ.ค.59 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี บริษัทฯ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่4 กลุ่มคือ ฟิชนู้ดเดิล ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา, อลาสก้า คิง แครบ เลกส์ ในกลุ่มปูอัด, โครแคตส์ เนื้อปลาบดปรุงรสสอดไส้ และรีทอร์ทเพาช์ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลาสไตล์ภูเก็ตและเต้าหู้ปลาพะโล้
ด้าน นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ให้ความเห็นกรณีปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) ว่า หากอียูให้ใบแดงกับประเทศไทยคงไม่กระทบกับบริษัทฯ อย่างเดียวเท่านั้น แต่จะทำให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่า ส่วนบริษัทฯ คงไม่เสียหายมากนัก เพราะมีปริมาณส่งออกไปสหรัฐอเมริกาไม่มากนัก
