xs
xsm
sm
md
lg

จีทีซี กรุ๊ป สบช่องโตเปิดตลาด AEC ร่วมทุนจีนลุยลอจิสติกส์รถยก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนรินทร์ สุวรรณสรางค์ กรรมการผู้จัดการ ประธานบริหาร จีทีซี กรุ๊ป
จีทีซี กรุ๊ป ผนึกกำลังร่วมทุน บริษัท อีพี อิควิปเมนต์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ขนย้ายยักษ์ใหญ่ระดับโลก ผุดบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ “บริษัท จีทีเอ็ม” รุกทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทรถยก รถลากและอุปกรณ์ขนย้ายในโรงงานและ Warehouse ปี 59 เต็มสูบ เล็งเห็นอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ในประเทศไทยเติบโตจากการเปิด AEC มั่นใจผลักดันผลประกอบการรวม จีทีซี กรุ๊ป สิ้นปี 59 โต 20% รายได้เหยียบ 500 ล้านบาท

นายนรินทร์ สุวรรณสรางค์ กรรมการผู้จัดการ ประธานบริหาร จีทีซี กรุ๊ป เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาสภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว แต่บริษัทก็สามารถดำเนินกลุ่มธุรกิจทั้งหมดได้ไปตามเป้าที่วางไว้ โดยผลประกอบการรวมทั้งหมดของบริษัทปีที่ผ่านมาเติบโต 30% คิดเป็นรายได้รวมทั้งหมด 400 ล้านบาท มาจาก 4 ธุรกิจหลัก คือ 1. กลุ่มเคมีภัณฑ์ 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมและสารสกัดจากธรรมชาติ 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์วัตถุแต่งกลิ่นรสและส่วนประกอบอาหาร และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทรถยก รถลาก และอุปกรณ์ขนย้าย โดยภาพรวมเฉลี่ยทุกแผนกเติบโต 25-35% ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์วัตถุแต่งกลิ่นรสและส่วนประกอบอาหารเติบโตสูงสุดถึง 35% ซึ่งกลยุทธ์ในการเติบโตของจีทีซีจะมุ่งเน้นการสร้างจุดยืนในฐานะ Strategic Partner จับมือกับคู่ค้าทั้งในและนอกประเทศเพื่อเพิ่ม Tools ต่างๆ ในการสนับสนุนการขยายธุรกิจของลูกค้ายักษ์ใหญ่ของเรา

สำหรับในปี 2559 นี้บริษัทวางแผนธุรกิจในการเตรียมรุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทรถยก รถลากและอุปกรณ์ขนย้าย ซึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้ร่วมทุนกับบริษัท อีพี อิควิปเมนต์ จำกัด บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีน ภายใต้บริษัทใหม่ชื่อ “บริษัท จีทีเอ็ม” โดยบริษัท อีพีมีอัตราส่วนการถือครองหุ้นส่วน 49% และบริษัทจีทีซีถือสิทธิ์ครองหุ้นที่ 51% เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าปัจจุบันผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มจะประสบปัญหาความหนาแน่นของคลังสินค้าในช่วงที่ธุรกิจกำลังขยายตัวจากการเปิด AEC ผลักดันให้อุตสาหกรรมลอจิสติกส์ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว บ่อยครั้งที่ผู้ประกอบการมักเลือกสร้างหรือขยายคลังสินค้าซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต้นทุนคลังสินค้าที่สูงขึ้น แทนที่เราจะขยายคลังสินค้าไปที่อื่น เราสามารถออกแบบและเลือกใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บและขนย้ายก็จะทำเพื่อให้ใช้เนื้อที่ในเชิงปริมาตรดีขึ้น

“จากการร่วมมือทำธุรกิจครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อบุกตลาดไทยทั่วประเทศ และเตรียมพร้อมบุกตลาดใหม่ AEC ในปีต่อไป และเชื่อมั่นว่าจะทำให้บริษัทเรามีความแข็งแกร่งทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล และด้านการบริการที่เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ตั้งแต่รถลากขนาดเล็ก จนถึงรถยกขนาดใหญ่ และผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกสภาพการใช้งาน ทั้งกลางแจ้งนอกอาคารโรงงาน ใช้งานในร่ม ใช้งานที่เกี่ยวกับอาหาร ใช้งานในสภาพที่เสี่ยงกับการระเบิด ฯลฯ และสามารถดัดแปลงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับทุกอุตสาหกรรมจากโรงงานผลิตได้อย่างครบครัน”

ส่วนทางด้านบริษัทจีทีซีจะยังคงมุ่งเน้นการเติบโตด้วยการให้บริการแบบ Boutique Trading Service ที่สามารถยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ไม่ได้เน้นขายเพียงสินค้า Commodity แต่เน้นสิ่งที่ขายสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม และทุ่มเทในการดูแล ให้บริการที่เหนือกว่า เพื่อเชื่อมต่อให้ทุกความต้องการของลูกค้าเป็นจริงได้ คาดการณ์จากแผนการรุกธุรกิจดังกล่าวจะส่งผลให้ผลประกอบโดยรวมทุกกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของบริษัทภายในสิ้นปี 59 นี้เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีกราว 20% หรือมีรายได้ทั้งหมดปิดอยู่ที่ 500 ล้านบาท



กำลังโหลดความคิดเห็น