ผู้จัดการรายวัน 360 - “สยามกลการอุตสาหกรรม” แนะผู้ประกอบการไทยเร่งปรับตัว ควบคุมต้นทุน เพิ่มคุณภาพการบริการ สร้างนวัตกรรมใหม่ พร้อมเปลี่ยนวิธีบริหารจัดการด้านลอจิสติกส์ และซัปพลายเชน หากหวังอยู่รอด เผยแผนการดำเนินงานปีนี้เน้นงานบริหารจัดการภายในคลังสินค้าแบบครบวงจร
นายประธานวงศ์ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจในหลายภาคอุตสาหกรรมอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างชะลอตัว โดยมีปัจจัยกดดันจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นทั้งในตลาดระดับประเทศ และตลาดระดับภูมิภาค
ขณะเดียวกัน รูปแบบการค้าที่เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านจากการค้าขายแบบ B to B เป็น B to C มากขึ้น โดยมีระบบอีคอมเมิร์ซเป็นตัวแปรที่สำคัญ จึงคาดว่าการแข่งขันในภาคธุรกิจต่างๆ จะยังมีความรุนแรงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และจะเกิดการแข่งขันกันเองในกลุ่มประเทศ AEC มากขึ้น ผู้ประกอบการในทุกภาคธุรกิจจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ควบคุมต้นทุน เพิ่มคุณภาพการบริการ และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ ยังต้องให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการด้านลอจิสติกส์ และซัปพลายเชนมากขึ้น โดยเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ มีศักยภาพในการทำงาน เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุน ความตรงต่อเวลา และคุณภาพของสินค้า-บริการ รวมทั้งจะต้องมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการที่ดี และให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยสะดวก ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในประเทศยังไม่ค่อยให้ความสำคัญต่อการดำเนินการดังกล่าว
นายประธานวงศ์ กล่าวด้วยว่า ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถโฟล์คลิฟต์แบรนด์ “UNICARRIERS” ที่เกี่ยวข้องต่อธุรกิจลอจิสติกส์และอุตสาหกรรมโดยตรง จึงได้พยายามปรับกลยุทธ์เรื่องขายและบริการในทุกๆ ด้านแบบครบวงจร โดยการให้คำแนะนำ หรือร่วมกับลูกค้าสร้างระบบ รูปแบบการจัดการในคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดความสูญเสียในพื้นที่การทำงาน ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น ควบคุมเวลาได้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงการสร้างบริการหลังการขายที่ดี โดยร่วมมือกับบริษัทแม่ในญี่ปุ่น จัดให้มีการฝึกอบรมช่าง และคนขับเพื่อมอบใบรับรองมาตรฐานการซ่อม และความปลอดภัยของการขับรถ
