เอเชีย กรีน เอนเนอจี ปี 58 มีรายได้ 4,226.55 ล้านบาท ขณะกำไรสุทธิอยู่ที่ 110.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 57 ที่มีผลขาดทุน 41.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 168.96% ด้าน “พนม ควรสถาพร” กรรมการผู้จัดการ ย้ำแผนปี 59 ยังคงเน้นกลยุทธ์ลดต้นทุน พร้อมขยายตลาดในประเทศ และตลาดเวียดนาม ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โต 10-15%
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 58 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,226.55 ล้านบาท ลดลงจากปี 57 ที่มีรายได้ 6,606.88 ล้านบาท หรือลดลง 36.03% ขณะที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 110.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168.96% เมื่อเทียบกับปี 57 ที่มีผลขาดทุน 41.08 ล้านบาท เนื่องจากเริ่มเห็นผลจากกลยุทธ์ลดต้นทุนที่บริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านคลังสินค้า และการขนส่ง รวมถึงการขยายการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้งการเปิดตลาดในประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ปี 2558 มีปริมาณการขายถ่านหินที่ระดับ 2 ล้านตัน พร้อมบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.05 บาทต่อหุ้น จากผลประกอบการปี 2558
ทั้งนี้ ในปี 59 บริษัทยังคงเน้นเรื่องของกลยุทธ์ในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคลังสินค้า และท่าเรือ การลดต้นทุนตั้งแต่การจัดหาถึงการส่งมอบ และตั้งเป้ายอดขายรวมเพิ่มขึ้น 10-15% ส่วนกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศนั้นมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากตลาดเวียดนามเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการถ่านหินสูง และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศที่ยังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง แม้ยอดคำสั่งซื้อในปัจจุบันจะยังไม่สูง ส่วนตลาดในประเทศยังเน้นขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
“ปีนี้ผลการดำเนินงานเราปรับตัวดีขึ้น โดยเราเน้นแผนลดต้นทุนในทุกส่วน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลคุณภาพสินค้าที่จะส่งให้ลูกค้า รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของคลังสินค้า และท่าเรือ การบริหารต้นทุนการขนส่ง โดยในช่วงปลายปี 58 บริษัทได้มีการขายรถขนส่งออกไปเพื่อใช้รถขนส่งจากพันธมิตรในราคาที่แข่งขันได้แทน ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนอย่างถาวร และเน้นขยายตลาดลูกค้าในประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมกับวางแผนบุกตลาดทางเลือกอื่น อย่างตลาดเวียดนาม ที่เราให้ทีมมาร์เกตติ้งไปบุกตลาดมาก่อนแล้ว และได้เริ่มมีการขายไปในช่วงปี 2558 โดยตลาดนี้ก็ยังมีความต้องการถ่านหินสูงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราเชื่อว่าจะเป็นส่วนสนับสนุนให้เป้ายอดขายถ่านหินเติบโตสูงขึ้นในอนาคต” นายพนม กล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานในปี 58 ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยเตรียมนำวาระเข้าสู้การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 59
