“สแกน อินเตอร์” รุกตลาดก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม ตั้งเป้าโตปีละ 120% ต่อเนื่อง 3-4 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันก็เร่งขยายปั๊ม NGV เพิ่มเติมรองรับความต้องการใช้ก๊าซ NGV ที่โตขึ้นในภาคขนส่ง มั่นใจปีนี้รายได้โตไม่ต่ำกว่า 40%
นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (SCN) บริษัทที่ดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขายก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) ในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 148 %จากปีก่อนอยู่ที่ 3,227ล้านบีทียู/วัน เป็น 8,000 ล้านบีทียู/วัน เนื่องจากได้มีการลงนามสัญญาขายก๊าซฯ สำหรับอุตสาหกรรมกับโอซาก้า แก๊ส (ประเทศไทย) และมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาอีก 2,811 ล้านบีทียู/วัน
ทั้งนี้ยังมีโรงงานอุตสาหกรรมอีกจำนวนมากที่ต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในภาคการผลิตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กระดาษและเหล็ก เป็นต้น ดังนั้นบริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตจากการขายก๊าซฯสำหรับอุตสาหกรรมไว้ปีละ 120% ต่อเนื่องไปอีก 3-4 ปี โดยในปี 2560 คาดว่าจะมียอดขายก๊าซฯ สำหรับอุตสาหกรรมเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบีทียู/วัน และใน 2561 จะเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบีทียู/วัน ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรมเพิ่มเติมโดยไม่มีแผนนำเข้าเอง จากปัจจุบันที่ซื้อก๊าซฯ มาจาก ปตท.เพื่อป้อนให้ลูกค้าอุตสาหกรรมที่อยู่นอกเส้นแนวท่อก๊าซฯ
ส่วนธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 1 ล้านกิโลกรัม (กก.)/วัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.5 แสนกิโลกรัม/วัน โดยปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาทในการซื้อสถานีบริการ NGV เพิ่ม 3ปั๊ม และจะสร้างสถานีบริการ NGV ใหม่เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีสถานีบริการ NGV อยู่ 7แห่ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพความต้องการใช้ก๊าซ NGV สำหรับกลุ่มลูกค้าภาคขนส่ง รถแท็กซี่ รถสาธารณะ รถยนต์บริษัท และรถราชการ เป็นต้น ซึ่งการใช้ก๊าซ NGV จะโตตามภาวะเศรษฐกิจ และพบว่าในต่างจังหวัดความต้องการใช้ก๊าซ NGV สำหรับภาคขนส่งยังมีอีกมาก เพราะราคา NGV ได้ปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันโดยล่าสุดราคาขายปลีกอยู่ที่ 13.36 บาท/กก. และมีแนวโน้มที่ราคาขายปลีก NGVจะปรับลดลงมาต่ำสุดในเดือน ก.ค.นี้ ดังนั้นการตัดสินใจซื้อสถานีบริการ NGV เพิ่มจึงเน้นไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี ระยอง ฯลฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ส่วนกรณีที่ ปตท.มีนโยบายที่จะขายสถานีบริการ NGV ให้แก่ผู้ที่สนใจนั้น ทางบริษัทฯ เองก็มีความสนใจที่จะซื้อสถานีบริการ NGV แต่ทั้งนี้คงต้องดูรายละเอียดข้อกฎหมายต่างๆ ด้วยเนื่องจาก ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ
นายฤทธีกล่าวถึงความคืบหน้าการนำบริษัทย่อย คือ บริษัท สยามวาสโก จำกัดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอว่า อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3 นี้ และน่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) ได้ในปี 2561 โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้ขยายการลงทุนสถานีบริการ NGV อย่างจริงจัง หลังภาครัฐมีนโยบายประกาศลอยตัวราคา NGV และให้ภาคเอกชนลงทุนทำธุรกิจสถานี NGV ได้อย่างเสรี
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อนมีรายได้ 2.12พันล้านบาท หลังจากในช่วงปลายปีก่อนบริษัทได้เข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท เก้าเจริญ โลจิสติกส์ จำกัด ที่คาดหวังจะมีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท
