xs
xsm
sm
md
lg

“SCN” คาดราคา NGV พุ่งหลังความต้องการผู้ใช้เพิ่มขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด บมจ.สแกน อินเตอร์ หรือ SCN
สแกน อินเตอร์ คาดผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันโลกกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง หนุนธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ และธุรกิจ iCNG เติบโต หลังผู้ประกอบการภาคขนส่งลอจิสติกส์ตัดสินใจปรับเปลี่ยนมาใช้ก๊าซ NGV จากจุดเด่นด้านส่วนต่างราคาที่ถูกกว่าน้ำมันดีเซลถึง 50% เตรียมเร่งปิดดีลซื้อปั๊ม NGV เพิ่ม 2 แห่งในกลางปีนี้ มั่นใจทั้งปีได้ 3 แห่งตามเป้า ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมองถึงการปรับเปลี่ยนหันใช้ iCNG เป็นเชื้อเพลิงในโรงงาน หวังคุมต้นทุนในระยะยาว

นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ประเมินความต้องการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ NGV ในประเทศไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ และภาคการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และได้เข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ โดยคาดว่า ในปีนี้แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนด้านพลังงานของผู้ประกอบการที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับต้นทุนด้านพลังงานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิง

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะราคาน้ำมันดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในปัจจุบันได้รับประโยชน์จากต้นทุนด้านพลังงานที่ต่ำกว่าการใช้น้ำมัน โดยมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ลิตรละ 29-30 บาทในเร็วๆ นี้ ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติ NGV จะอยู่ที่ 14-15 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น หรือถูกกว่าถึง 50% ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมลอจิสติกส์สามารถตัดสินใจหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV ทดแทนน้ำมันดีเซลได้ง่ายขึ้น

“เดิมภาคอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ นิยมใช้น้ำมันดีเซล และก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงหลักในขนส่งสินค้า แต่เมื่อราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตัดสินใจเลือกใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV แทนน้ำมันดีเซลได้ง่ายขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่ามาก สะท้อนให้เห็นว่า ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงที่เหมาะต่อภาคขนส่งลอจิสติกส์ของไทยมากที่สุด”

ขณะเดียวกัน โอกาสดังกล่าวทำให้ SCN สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อก๊าซธรรมชาติจากกลุ่มธุรกิจให้บริการสถานีก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ ที่คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการจำหน่ายก๊าซมากขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนด้านจำนวนฐานผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแผนงานของ SCN ที่มีเป้าหมายขยายสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์ในรูปแบบการเข้าซื้อกิจการเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 10 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 7 แห่ง โดยคาดว่า ภายในกลางปีนี้บริษัทฯ จะสามารถขยายสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV เพิ่มขึ้น 2 แห่งในโซนภาคตะวันออก ซึ่งหากสามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนที่วางไว้ คาดว่าธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ NGV สำหรับยานยนต์จะมีปริมาณการขายก๊าซเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 450,000 กิโลกรัม หรือสร้างรายได้ปีละ 2,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นยังส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรม หรือ iCNG ของ SCN เนื่องจากกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันใช้น้ำมันเตา หรือก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิงในภาคการผลิต จะได้รับผลกระทบด้านต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จึงพิจารณาการปรับเปลี่ยนใช้ iCNG เป็นเชื้อเพลิงในภาคการผลิตเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว ซึ่งเป็นโอกาสดีของ SCN รุกขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรมไปยังกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมตามแนวนอกท่อก๊าซได้เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่า ในปี 2559 จะมีปริมาณการขาย iCNG ได้ตามแผนอยู่ที่ 8,000 ล้านบีทียูต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น