ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์หรือEICออกบทวิเคราะห์กบง. ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกส่วนใหญ่ลดลง
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบปรับอัตราเงินจัดส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในการประชุมวันที่ 28 สิงหาคม 2014 และให้มีผลบังคับใช้วันที่ 29 สิงหาคม 2014
analysis
ราคาน้ำมันขายปลีกในกลุ่มเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลลดลงเกือบทุกชนิด โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลดลงมากที่สุดที่ 3.89 บาท/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 2.13 บาท/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลง 1.70 บาท/ลิตร E20 ลดลง 1 บาท/ลิตร ส่วน E85 ราคาคงเดิม สำหรับน้ำมันดีเซลราคาปรับเพิ่มเล็กน้อย 0.14 บาท/ลิตร กลับไปสู่เพดานเดิม โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
ผู้ขับขี่ยานยนต์ส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ ส่วนต้นทุนภาคขนส่งไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลที่ปรับลดลงช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับภาคครัวเรือนผู้ขับขี่ยานยนต์ ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล รวมประมาณ 700 ล้านลิตร/เดือน สำหรับผู้ประกอบการขนส่งซึ่งส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซลนั้น ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยกลับไปสู่เพดานเดิม และยังคงตรึงราคาไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ซึ่งอีไอซีประเมินว่าต้นทุนขนส่งจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลก่อนหน้า
ส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลกับเบนซิน สร้างแรงจูงใจในการใช้พลังงานทดแทน แม้ส่วนต่างราคาจะแคบลงกว่าเดิม แต่ราคาขายปลีกแก๊สโซฮอลชนิดต่างๆ ยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินค่อนข้างมาก เช่น แก๊สโซฮอล 95 ถูกกว่า 7.06 บาท/ลิตร หรือ E85 ถูกกว่าถึง 20.58 บาท/ลิตร ทำให้คนยังนิยมใช้แก๊สโซฮอลที่มีส่วนผสมของเอทานอลที่ผลิตจากพืช เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณการใช้แก๊สโซฮอลโดยรวมจะขยายตัวราว 5% โดยแก๊สโซฮอล E20 และ E85 จะมีสัดส่วนการใช้เพิ่มขึ้นตามลำดับ ในระยะยาวจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศและสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงาน
implication
การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ เป็นไปตามแผนปฏิรูปพลังงานที่มุ่งให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน จากเดิมที่มีการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตราที่สูงจากผู้ใช้น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล E10 เพื่อไปชดเชยการตรึงราคา LPG การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ในครั้งนี้ อีไอซีประเมินว่าจะทำให้รายรับของกองทุนฯ ลดลงราว 1 พันล้านบาท/เดือน เหลือประมาณ 2.5 พันล้านบาท/เดือน แต่เป็นสัญญาณว่าน่าจะมีการทยอยปรับขึ้นราคา LPG ในภาคขนส่งและภาคครัวเรือนให้เท่ากับราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ ที่ 24.82 บาท/กิโลกรัม เพื่อลดการชดเชยราคา LPG ซึ่งจะช่วยให้สถานะกองทุนฯ กลับมาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใช้ E20 และ E85 ยังจะได้รับการชดเชยราคาจากกองทุนฯ ซึ่งเป็นแนวทางสอดคล้องกับภาครัฐที่ต้องการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้นในอนาคต
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบปรับอัตราเงินจัดส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในการประชุมวันที่ 28 สิงหาคม 2014 และให้มีผลบังคับใช้วันที่ 29 สิงหาคม 2014
analysis
ราคาน้ำมันขายปลีกในกลุ่มเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลลดลงเกือบทุกชนิด โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลดลงมากที่สุดที่ 3.89 บาท/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 2.13 บาท/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลง 1.70 บาท/ลิตร E20 ลดลง 1 บาท/ลิตร ส่วน E85 ราคาคงเดิม สำหรับน้ำมันดีเซลราคาปรับเพิ่มเล็กน้อย 0.14 บาท/ลิตร กลับไปสู่เพดานเดิม โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
ผู้ขับขี่ยานยนต์ส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ ส่วนต้นทุนภาคขนส่งไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลที่ปรับลดลงช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับภาคครัวเรือนผู้ขับขี่ยานยนต์ ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล รวมประมาณ 700 ล้านลิตร/เดือน สำหรับผู้ประกอบการขนส่งซึ่งส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซลนั้น ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยกลับไปสู่เพดานเดิม และยังคงตรึงราคาไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ซึ่งอีไอซีประเมินว่าต้นทุนขนส่งจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลก่อนหน้า
ส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลกับเบนซิน สร้างแรงจูงใจในการใช้พลังงานทดแทน แม้ส่วนต่างราคาจะแคบลงกว่าเดิม แต่ราคาขายปลีกแก๊สโซฮอลชนิดต่างๆ ยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินค่อนข้างมาก เช่น แก๊สโซฮอล 95 ถูกกว่า 7.06 บาท/ลิตร หรือ E85 ถูกกว่าถึง 20.58 บาท/ลิตร ทำให้คนยังนิยมใช้แก๊สโซฮอลที่มีส่วนผสมของเอทานอลที่ผลิตจากพืช เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณการใช้แก๊สโซฮอลโดยรวมจะขยายตัวราว 5% โดยแก๊สโซฮอล E20 และ E85 จะมีสัดส่วนการใช้เพิ่มขึ้นตามลำดับ ในระยะยาวจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศและสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงาน
implication
การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ เป็นไปตามแผนปฏิรูปพลังงานที่มุ่งให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน จากเดิมที่มีการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตราที่สูงจากผู้ใช้น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล E10 เพื่อไปชดเชยการตรึงราคา LPG การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ในครั้งนี้ อีไอซีประเมินว่าจะทำให้รายรับของกองทุนฯ ลดลงราว 1 พันล้านบาท/เดือน เหลือประมาณ 2.5 พันล้านบาท/เดือน แต่เป็นสัญญาณว่าน่าจะมีการทยอยปรับขึ้นราคา LPG ในภาคขนส่งและภาคครัวเรือนให้เท่ากับราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ ที่ 24.82 บาท/กิโลกรัม เพื่อลดการชดเชยราคา LPG ซึ่งจะช่วยให้สถานะกองทุนฯ กลับมาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใช้ E20 และ E85 ยังจะได้รับการชดเชยราคาจากกองทุนฯ ซึ่งเป็นแนวทางสอดคล้องกับภาครัฐที่ต้องการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้นในอนาคต