กทพ.เจอทางตัน คดีปรับค่าทางด่วน “คลัง-อัยการ” มีมติให้จ่ายค่าเสียหาย BEM กว่า 4.3 พันล้าน ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ด้านบอร์ดสั่งเร่งหาทางแก้ไข ยื่นศาลปกครองเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ พร้อมเตรียมแผนจ่ายเงินกรณีแพ้เอกชน
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากกรณีที่อนุญาโตตุลาการข้างมากมีคำชี้ขาด เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2559 ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นเงินส่วนต่างรายได้ค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคมฉบับลงวันที่ 29 ส.ค. 2546 โดยคิดเป็นค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 4,368,008,918.15 บาท และดอกเบี้ยตามสัญญาข้อ 25.6 ตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 และชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางระหว่างอัตราค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคมฉบับลงวันที่ 29 ส.ค. 2546 นั้น โดย กทพ.ระบุว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับกับข้อพิพาทและมิได้อยู่ในขอบเขตแห่งสัญญาอนุญาโตตุลาการ และจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน กทพ.ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ และได้ส่งเหตุผลคำโต้แย้งคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้กระทรวงการคลังและสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว้าด้วยการปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2544 และเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2559 กระทรวงการคลังและอัยการสูงสุดได้มีหนังสือตอบกลับ กทพ.
ในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า กทพ.ไม่สามารถแสดงเหตุอันควรที่จะไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
ส่วนสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ สำนักงานอัยการสูงสุดวินิจฉัยว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน คำเสนอข้อพาทไม่คลุมเครือ และ กทพ.เป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงต้องชำระเงินค่าเสียหายต่างๆ ให้แก่ BEM ดังนั้นคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากชอบด้วยเหตุผลและข้อกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุเพิกถอนคำชี้ขาด
โดยเมื่อวันที่ 27 เม.ย. คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.ที่มี พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธานได้เรียกประชุมวาระเร่งด่วนกรณีคลังและอัยการชี้ขาดให้ กทพ. ชดใช้ค่าเสียหายให้ BEM กรณีไม่ได้ปรับค่าผ่านทางด่วนปี 46 ซึ่งก่อนหน้านี้ กทพ.ได้ทำหนังสือแจ้งปฏิเสธในการชำระเงินใดๆ ไปยัง BEM ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการแล้ว
โดย พล.อ.วิวรรธน์กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาคำสั่งของอนุญาโตตุลาการกรณีการชดใช้ค่าเสียหายกับ BEM ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2551 ที่ผ่านมา โดยได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา คือ 1. หากจะต้องการชำระค่าเสียหายตามที่ BEM เรียกร้อง กทพ.สามารถจ่ายได้หรือไม่ จะต้องจ่ายอย่างไรหรือหากจะต้องฟ้องศาลปกครองให้พิจารณาเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการนั้น กทพ.จะต้องปรึกษาทีมกฎหมายเพื่อพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยตามกรอบเวลาจะต้องยื่นศาลปกครองภายใน 90 วันนับจากวันที่ได้รับคำชี้ขาด ซึ่งยังมีเวลาถึงเดือน มิ.ย. โดย กทพ.จะต้องเร่งพิจารณารายละเอียดและเสนอที่ประชุมบอร์ดพิจารณาหาข้อยุติอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค.