ผู้รับเหมาร้องเหล็กขึ้นราคา 15% หลังมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นจากโครงการเมกะโปรเจกต์ บ้านประชารัฐ และโครงการก่อสร้างของรัฐบาล “พาณิชย์” สั่งติดตามใกล้ชิด หวั่นร้านค้าแอบกักตุน จนคนใช้เดือดร้อน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ว่าราคาเหล็กแผ่น และเหล็กเส้น ปรับขึ้นจากช่วงต้นปีประมาณ 15% หรือเดือนละ 5% จนสร้างความเดือนร้อนต่อผู้ใช้ เพราะทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการจำนวนมากมีแผนหรือกำลังรับงานในโครงการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ โครงการก่อสร้างตามท้องถิ่นต่างๆ และโครงการบ้านประชารัฐ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
“กรมฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจราคาสินค้าเหล็กตามร้านค้าปลีก ค้าส่ง ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบดูว่ามีการกักตุนเหล็กเพื่อรองรับโครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งหากมีการกักตุนก็จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เหล็กที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากวัตถุดิบที่มีการปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการที่จีนปิดโรงงานเหล็กที่ไม่ได้คุณภาพ และจีนมีนโยบายในการลดกำลังการผลิตเหล็กลง ส่วนราคาเหล็กที่ปรับขึ้นเดือนละ 3-5% หรือปรับขึ้นไปแล้วคิดเป็น 15% จากต้นปีนั้น ราคายังไม่เกินราคาแนะนำที่กรมฯ ได้กำหนดไว้ แต่กรมฯ จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน
น.ส.วิบูลลักษณ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กรมฯ ดูแลเรื่องของค่าครองชีพเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน เบื้องต้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบราคาสินค้าตามตลาดต่างๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ทั้งในส่วนของผัก ผลไม้ เนื้อสุกร และเหล็ก เป็นต้น เพื่อไม่ให้สินค้าดังกล่าวเกิดการขาดแคลนจนนำไปสู่การปรับขึ้นราคา