“พาณิชย์” เผย “เกษตร” เตรียมประกาศพื้นที่ปลูกข้าว 55.8 ล้านไร่ สัปดาห์หน้า กำหนดชัดจังหวัดไหน อำเภอไหนปลูกได้ไม่ได้ คาดให้เริ่มปลูกข้าวได้ตั้งแต่ พ.ค.เป็นต้นไป ส่วนพื้นที่ไม่อนุญาตจะผลักดันให้ปลูกพืชอื่นทดแทน และหาอาชีพเสริมให้ พร้อมตั้งผู้ตรวจ 28 ชุดลงพื้นที่ติดตาม ดูแล แก้ไขปัญหาตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยว เผยยังใช้ดาวเทียมติดตามดูได้ทั้งประเทศ
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะทำงานวางแผนการผลิตข้าวครบวงจรได้ติดตามความคืบหน้าการจัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวในปีการผลิต 2559/60 พบว่าส่วนใหญ่เป็นไปตามแผน โดยเฉพาะการกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งประเทศจำนวน 55.8 ล้านไร่ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เกษตรกรได้รับรู้ว่าจังหวัดไหน อำเภอไหน เป็นพื้นที่ส่งเสริมการปลูกข้าว และจะให้เริ่มเพาะปลูกได้เมื่อไหร่ คาดว่าน่าจะเริ่มเพาะปลูกได้ประมาณเดือน พ.ค. 2559 เป็นต้นไป
สำหรับพื้นที่ที่ไม่ได้อนุญาตให้เพาะปลูกข้าว กระทรวงเกษตรฯ จะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการผลักดันให้เกษตรกรไปเพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน และกระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยเหลือในด้านการฝึกอาชีพ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะหากยังคงดื้อดึงที่จะปลูกข้าว ผลผลิตอาจเสียหายและมีปัญหาตามมาอีกในอนาคต
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ในการกำหนดพื้นที่เพาะปลูกข้าว ไม่ใช่กำหนดตามอำเภอใจ แต่กระทรวงเกษตรฯ ได้นำเทคโนโลยีของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA มาใช้ และได้จัดทำแผนที่เกษตรเพื่อบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) ซึ่งจะทำให้ดูได้ว่าพื้นที่ไหนเหมาะสมในการปลูกข้าว พื้นที่ไหนไม่เหมาะสม และยังได้กำหนดให้มีผู้ประสานงานดูแลโดยดึงผู้ตรวจราชการจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เข้าไปกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง
“ผู้ตรวจราชการที่ตั้งขึ้นจะมีทั้งหมด 28 ชุด แบ่งแยกกันดูแลทั้งประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ โดยจะดูแลตั้งแต่การเพาะปลูก ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ตรงจุดไหน มีปัญหา ก็ให้เข้าไปช่วยดูแลแก้ไข และนำเสนอปัญหาผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด และประสานงานผ่านเลขานุการ นบข. เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขต่อไป”
นอกจากนี้ GISTDA ยังได้ประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ และกรมที่ดิน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลเกษตรกร โดยต่อไปเมื่อส่องจากดาวเทียมก็จะรู้เลยว่าที่ดินผืนนี้เป็นของเกษตรกรรายใด มีการขึ้นทะเบียนเกษตรแล้วหรือยัง ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินการไปแล้ว 30% และจะเร่งทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะที่ดินที่มีโฉนด ไม่เพียงแค่นั้น GISTDA ยังได้พัฒนาระบบจนสามารถใช้ดาวเทียมส่องดูพื้นที่เพาะปลูกตามที่ระบุไว้ใน Agri-Map ซึ่งจะทำให้รู้ว่าข้าวในพื้นที่นี้เริ่มปลูกแล้วหรือยัง หรือข้าวโตแล้ว หรือข้าวเก็บเกี่ยวแล้ว ทำให้ติดตามข้าวได้ตลอด
น.ส.ชุติมากล่าวว่า สำหรับนาแปลงใหญ่ได้เพิ่มสิ่งจูงใจให้เกษตรกรรวมตัวกันเป็นกลุ่มและทำนาแปลงใหญ่ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะปล่อยกู้ให้กลุ่มละ 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำเงินไปใช้หมุนเวียนในการเพาะปลูก และยังได้ประสานกับโรงสีไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เข้ามารับซื้อผลผลิตข้าวเปลือก ซึ่งมีโรงสีแจ้งความประสงค์แล้วกว่า 300 โรง
ส่วนการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรในส่วนของค่าเช่าที่นา ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกระเบียบกำหนดอัตราค่าเช่าให้ชัดเจน การประกันภัยพืชผล อยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตเสียหายแล้วเคลมไม่ได้ และยังได้มีการปรับลดราคาจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืชแล้ว
