เที่ยวบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิดีเลย์เพียบ เหตุ บวท.ปรับระบบจัดจราจรใหม่

วิทยุการบินฯ ปรับระบบบริหารจราจรทางอากาศ วันแรก ทำ เที่ยวบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ดีเลย์ เพียบ หนักสุด ดีเลย์ 1.30 ชม.-1.45 ชม.บวท.แจง จราจรแออัด ประกอบกับสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย โดยสุวรรณภูมิ ล่าช้า 48 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 1 ชั่วโมง ดอนเมือง ล่าช้า 34 เที่ยวบิน

รายงานข่าวจากท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้(31 มี.ค.) ช่วงเวลา 05.00 น.-07.00 น. เที่ยวบินขาออกที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง มีความล่าช้าจากตารางการบินปกติ รวม 12 เที่ยวบิน โดยลำแรกล่าช้าประมาณ 2-3 นาที และต่อเนื่องไปยังลำที่ 2 ,3 ... โดยลำที่ 12 ล่าช้าจากตารางบินประมาณ 36 นาที ทั้งนี้เนื่องจาก ทางบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารการจราจรทางอากาศใหม่เป็นวันแรก และเนื่องจากเที่ยวบินขาออกล่าช้าทำให้เที่ยวบินขาเข้า ต้องล่าช้าไปด้วยส่วนการให้บริการภาคพื้นดินที่เกี่ยวข้อง ไม่มีปัญหา โดยล่าสึดไม่มีผู้โดยสารตกค้างใน GATE ต่างๆ แล้ว

ด้านนายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท.ชี้แจงว่า ในวันนี้ (31 มี.ค.) เป็นวันแรกที่ บวท. มีการปรับการบริหารการจราจรทางอากาศ สำหรับเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ จากปัญหาความแออัด ค่อนข้างมาก ประกอบกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้มีเที่ยวบินต้องเกิดความล่าช้าขึ้น โดยยอมรับว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีเที่ยวบินที่ท่าอากศยานสุวรรณภูมิเกิดความล่าช้ารวม 51 เที่ยวบิน และที่ท่าอากาศยานดอนเมืองรวม 34 เที่ยวบิน แต่ล่าสุดสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว

โดยเที่ยวบินที่เกิดความล่าช้าที่สุดที่สนามบินสุวรรณภูมิคือล่าช้า 1.45 ชม. ส่วนที่สนามบินดอนเมืองล่าช้าที่สุดราว 1.30 ชม.

ทั้งนี้ บวท.ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการที่มีปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน บวท.จึง ลได้ดำเนินการโครงการศึกษา ทบทวน วิเคราะห์ ปรับปรุงแก้ไขเส้นทางบินมาตรฐานขาเข้า- ขาออก (RNAV SID/STAR) สำหรับการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศในเขตสนามบินกรุงเทพ สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยได้ดำเนินการในขั้นตอนสำคัญต่างๆ ประกอบด้วย ขั้นตอนศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล ขั้นตอนการออกแบบและจัดทำเส้นทางบินมาตรฐาน ขั้นตอนการวิเคราะห์และประเมินความปลอดภัย ขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูล ขั้นตอนการบินทดสอบ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และประกาศให้ผู้ปฏิบัติงานทางอากาศ (NOTAM) รับทราบโดยทั่วกัน โดยมีผลบังคับใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มี.ค. 2559 ในเวลา 0700 น.

โดยผลการดำนินการ เวลา 0700 น. ได้เริ่มเปิดใช้งานตามแผนและขั้นตอนการปฏิบัติที่กำหนดไว้ โดยเที่ยวบินแรกที่เข้ามาลงด้วย RNAV STAR ใหม่ ทั้งสองสนามบินประกอบด้วย เที่ยวบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ BKP100 แบบ A319 เดินทางมาจากท่าอากาศยานสมุย ลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 06.59น. เที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ AIQ3036 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานภูเก็ตลงท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 07.04 น.

เวลา 0705 น. มีสภาพอากาศรองท่าอาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบกับการปรับ procedure ใหม่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และให้ผู้ควบคุมจราจรทางอากาศและนักบินเกิดความคุ้นชิน จึงต้องมีการจัดระยะห่างของอากาศในการเข้า/ออก จาก 2 นาที/ลำ เป็น 4 นาที/ลำ จึงมีผลกระทบทำให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน ดังนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างเวลา 08.00-09.45 น. ขาออกมีเที่ยวบินล่าช้า 48 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 1 ชั่วโมง ท่าอากาศยานดอนเมืองระหว่างเวลา 08.00-09.45 น. ขาออกมีเที่ยวบินดอนเมือง ล่าช้า 34 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 1 ชั่วโมง โดยสถานการณ์เครื่องที่คั่งค้างได้ทำการบินออกครบถ้วนแล้วช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ทั้งนี้สถานการณ์จะเริ่มเข้าสูสภาวะปกติช่วงเวลา12.00 น. ของวันนี้

อย่างไรก็ตาม บวท. เชื่อมั่นว่าการปรับปรุงแก้ไขเส้นทางบินมาตรฐานขาเข้า- ขาออก (RNAV SID/STAR) และมีการสร้างความคุ้นชินในการปฏิบัติการบินทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศและนักบินแล้ว จะส่งผลให้สามารถรองรับปริมาณ เที่ยวบินได้เต็มศักยภาพในการให้บริการแบบ 2 สนามบิน (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) ได้เป็นอย่างดี