ผู้จัดการรายวัน 360 - “ลอรีอัล” เพิ่มช่องทางใหม่ ผุด “อี-บูติก” รับตลาดออนไลน์เฟื่อง ปีนี้จ่อเปิด NYX อี-บูติก เพิ่มจากเดิมที่มีแล้ว 2 แบรนด์ พร้อมเป้าหมายรายได้เติบโตรวมสองเท่าของตลาดรวม
นายอูเมซ ฟัดเค กรรมการผู้จัดการ และ น.ส.นาตาลี เกอร์ชไตน์ เคอโรวดี (ว่าที่กรรมการผู้จัดการคนใหม่ มีผล 1 เมษายน 2559) บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับเปิดเผยว่า ตลาดความงาม (Beauty) ในประเทศไทย มีมูลค่ามากกว่า 81,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 4-6% และยังเป็นตลาดที่เติบโตได้ต่อเนื่องถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียน
ทั้งนี้ แยกเป็นกลุ่มสกินแคร์สัดส่วน 46% หรือมูลค่า 26,000 ล้านบาท เติบโต 5%, กลุ่มผม สัดส่วน 22%, กลุ่มเมกอัพ สัดส่วน 16% หรือมูลค่า 14,000 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุด 6.5% (แยกเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับหน้า 59%, ลิป 22%, ตา 17% และ เล็บ 2%) กลุ่มไฮยีน สัดส่วน 13% และกลุ่มน้ำหอม 3%)
โดยแผนธุรกิจของลอรีอัลในปี2559 คือ 1. การเพิ่มแบรนด์ใหม่ ล่าสุดคือ แบรนด์นิกซ์ (NYX) ที่บริษัทแม่ซื้อกิจการมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเริ่มทำตลาดในไทยต้นปีนี้ ถือเป็นแบรนด์ที่ 22 ในไทยแล้ว จากเดิมที่ทำตลาดในไทยอยู่ 21 แบรนด์ เช่น ลอรีอัล การ์นิเย่ เมย์เบลลีน ลังโคม ไบโอเธิร์ม ดีเซล เป็นต้น 2. การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่โดดเด่น 3. การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน 4. การใช้สื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งปีที่แล้วเพิ่มงบออนไลน์มากถึง 130% และ 5. การสร้างช่องทางจำหน่ายเพิ่มใหม่ๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ ที่เติบโตอย่างมาก จากสถิติในไทยมีผู้ใช้มือถือ 82 ล้านคน และกว่า 37 ล้านคนใช้เฟซบุ๊กทุกเดือน ใช้โซเชียลมีเดียเฉลี่ย 3 ชั่วโมงต่อวันต่อคน และอีคอมเมิร์ซยังเป็นเทรนด์ทั่วโลกด้วย
จากตัวเลขของยูโรมอนิเตอร์ระบุว่า ภาพรวมซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตเติบโต 30% ในปี2558 ด้วยมูลค่ากว่า 47 พันล้านบาท ขณะที่ด้านดีเอชแอล รายงานว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยอยู่ในช่วงของการเติบโตและจะขยายตัวขึ้นเป็นสามเท่าด้วยมูลค่ากว่า 138.86 พันล้านบาท ในช่วงระหว่างนี้จนถึงปี 2563 จึงทำให้ลอรีอัลให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ด้วย ที่ผ่านมาได้มีการสร้างร้านค้าออนไลน์ของตนเองแล้วที่เรียกว่า อี-บูติก เช่น ร้านค้าออนไลน์แบรนด์เมย์เบลลีน และคีลส์ เป็นต้น และปีนี้จะเปิดร้านค้าออนไลน์เพิ่มอีกแบรนด์ คือ นิกซ์
โดยปีนี้ลอรีอัลคาดว่าจะเติบโตมากกว่าตลาดรวมสองเท่า เช่นเดียวกับปีที่แล้ว รวมทั้งมีส่วนแบ่งในตลาดเมคอัพเพิ่มขึ้น ซึ่งปีที่แล้วลอรีอัลจำหน่ายสินค้าไปทั้งหมด 87 ล้านชิ้น และไทยยังเป็นตลาดที่ทำรายได้สูงสุดในกลุ่มลอรีอัลในอาเซียนด้วย
