“ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท “ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล” (Deutsche Post DHL Group - DPDHL) ผู้นำด้านลอจิสติกส์ระดับโลก ได้ลงทุนเพื่อขยายการให้บริการมาสู่ประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบบริการจัดส่งสินค้าแบบครบวงจร (end-to-end) ให้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ รวมไปถึงอีกหลายบริการที่โดดเด่นเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย
ระบบการจัดส่งที่ดีเยี่ยมเป็นหัวใจสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น “ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” จึงมุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ด้วยระบบการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมและการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ที่คล่องตัวไม่ติดขัด
“ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” ได้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าขนาด 3 พันตารางเมตรในกรุงเทพฯ และเครือข่ายสถานีกระจายสินค้าอีกมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อมอบบริการจัดส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศและตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่มีการขยายตัวสูงขึ้น โดยมีแผนขยายเครือข่ายสถานีกระจายสินค้าให้มีจำนวนขึ้นมากกว่าสองเท่าภายในปี 2560 รวมถึงการเพิ่มจำนวนจักรยานยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดส่งให้เหมาะกับการจราจรภายในเมืองใหญ่ของประเทศไทย
ทั้งนี้ “ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” ยังสามารถมอบบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป ด้วยจักรยานยนต์และรถบรรทุกในพื้นที่เขตเมืองและบริการจัดส่งสินค้าภายใน 2-3 วันในพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการยังสามารถใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery - COD) ซึ่งมีบริการนำส่งเงินค่าสินค้าคืนผู้ขายเป็นประจำทุกวันและศูนย์บริการลูกค้า (call center) ที่สามารถให้บริการได้หลากหลายภาษา
การเปิดตัว “ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” ในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของกลยุทธ์ 2020 (Strategy 2020) ของ กลุ่มบริษัทดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล บริษัทยังได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มธุรกิจ Mail เป็น Post-eCommerce-Parcel ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญทางด้านการให้บริการเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดอีคอมเมิร์ซ
นายโธมัส คิปป์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจสูงและด้วยตลาดอี-คอมเมิร์ซเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ผนวกกับสมาร์ทโฟนเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้ “ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” เลือกเปิดตัวบริการจัดส่งภายในประเทศที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ 2020 ของกลุ่มบริษัท
นายโธมัส กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการคาดการณ์ว่าตลาด-อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นกว่า 3 เท่า มีมูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท (3.6 พันล้านยูโร) ภายในปี 2563และด้วยการลงทุนของ “ดีเอชแอล” ในครั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นว่าเราจะอยู่ในจุดที่พร้อมรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายมัลคอล์ม มอนเตโร ประธานกรรมการบริหาร “ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ” ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า แม้ตลาดอี-คอมเมิร์ซของไทยในปัจจุบันจะได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วจนถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท แต่มูลค่าส่วนแบ่งของอี-คอมเมิร์ซในตลาดค้าปลีกของประเทศไทยยังถือว่าน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับประเทศที่มีการเจริญเติบโตสูง โดยยอดขายโดยรวมจากอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 1.7% ขณะที่ประเทศจีนมีมูลค่าสูงกว่า 10%
นายมัลคอล์ม กล่าวเพิ่มเติมว่า เรามองเห็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญหลังจากที่ได้เห็นการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้มีการขนส่งสินค้าในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น โดย ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ให้ความสำคัญกับประเทศไทยว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยขนาดของตลาดที่คาดว่าตั้งแต่ปี 2557-2563 จะเติบโตมากกว่า 20% จนมีมูลค่ารวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดจากกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีจำนวนมากที่เริ่มขยับขยายกิจการมาใช้รูปแบบการขายออนไลน์มากขึ้น
นายมัลคอล์ม กล่าวด้วยว่า ความสำเร็จของเราในประเทศอินเดียและจีนแสดงให้เห็นว่าด้วยการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงระบบการจัดส่งแบบครบวงจร (end-to-end) ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดอี-คอมเมิร์ซ ทั้งในส่วนผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยไปจนถึงกลุ่มบริษัทใหญ่ที่มีเครือข่ายในหลากหลายประเทศ เราจึงมั่นใจว่าบริการของ “ดีเอชแอล” จะช่วยให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่กำลังขยายกิจการเข้ามาในรูปแบบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีข้อได้เปรียบและสร้างจุดขายที่มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง
นายเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มีความสะดวกในการเข้าถึงบริการอี-คอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่จะต้องมีบริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการมอบบริการที่มีมาตรฐานที่ดี ด้วยเหตุนี้ระบบการจัดส่งที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซโดยเฉพาะจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นในปัจจุบันซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถใช้เวลากับการบริหารธุรกิจหลักของบริษัท เพื่อให้มีการเจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้นบนพื้นฐานของระบบการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ
อนึ่ง “ดีเอชแอล” เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2516 โดยให้บริการผ่านกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้แก่ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส, ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง และดีเอชแอล ซัพพลายเชน