บอร์ด ทอท.อนุมัติแผนแม่บทพัฒนาสนามบินดอนเมืองระยะ 3 (60-68) วงเงิน 2.74 หมื่นล้าน เพิ่มจากเดิมเกือบ 2 หมื่นล้าน ขยายขีดรับผู้โดยสาร 40 ล้าน เผยกระแสเงินสดมี 5 หมื่นล้าน คาดเงินขาดมือบ้างแต่ไม่มาก เล็งกู้ในประเทศช่วย ขณะที่ลดค่าแลนดิ้ง 50-95% ดึงแอร์ไลน์ใช้บริการช่วงหลังเที่ยงคืน “นิตินัย” แจงอาหารแพง ชี้ส่วนใหญ่ไม่เกิน 20% แต่สัญญาเก่าคุมไม่ได้ เร่งขอความร่วมมือผู้ประกอบการ
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด ) ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากรเป็นประธานเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ประชุมเห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ฉบับปรับปรุง) โดยจะมีการพัฒนาในระยะที่ 3 (2560-2568) วงเงินลงทุน 27,435 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคนต่อปี รองรับเที่ยวบินได้ 40-50 เที่ยวบินต่อชั่วโมง โดยจะเสนอแผนไปกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอนต่อไป
โดยการพัฒนาดอนเมืองระยะที่ 3 แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ช่วงที่ 1 (2560-2565) วงเงินลงทุน 27,000 ล้านบาท มี 3 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มงาน Airside ประกอบด้วย งานก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ พร้อมทางขับเชื่อมและระบบเติมน้ำมันอากาศยาน งานปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ และทิศใต้ พร้อมระบบเติมน้ำมันอากาศยาน งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานสำหรับกิจกรรมการบิน General Aviation และงานก่อสร้าง Rapid Exit Taxiway บริเวณทางวิ่ง 21 และ Exit Taxiway เชื่อมต่อทางขับสาย B และ C เป็นต้น กลุ่มงานอาคารผู้โดยสารและอาคารสนับสนุน เช่น งานก่อสร้างขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือพร้อมติดตั้งสะพานเทียบ 3 ชุด งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 งานก่อสร้างอาคาร Junction Building และอาคารจอดรถยนต์ผู้โดยสาร งานปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 (Pier 6) เป็นต้น กลุ่มงานระบบสาธารณูปโภค เช่น การปรับปรุงระบบถนนภายใน งานปรับปรุงระบบระบายน้ำภายใน เป็นต้น
ช่วงที่ 2 (2566-2568) วงเงินลงทุน 8,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร และสายการบิน ประกอบด้วย งานปรับปรุงและก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน งานก่อสร้างระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อภายใน ทดม. งานก่อสร้างลานจอดรถระยะยาว ด้านทิศใต้ งานก่อสร้างทางเชื่อมสำนักงานใหญ่
ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีนับจากปี 2560 เป็นต้นไป ทอท.จะต้องลงทุนประมาณ 1.6 แสนล้านบาทเพิ่มจากเดิมที่จะลงทุนประมาณ 1.4 แสนล้านบาท เนื่องจากการพัฒนาดอนเมืองระยะ 3 มีการปรับเพิ่มจากเดิม 7-9 พันล้านบาทเป็น 2.7 หมื่นล้านบาท ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิระยะ 2 ประมาณ 5.2-5.5 หมื่นล้านบาท และการพัฒนาสนามบินภูมิภาค ซึ่งอยู่ระหว่างปรับแผนแม่บท โดยมีกระแสเงินสดในมือที่ 4.8 หมื่นล้านบาท และมีกระแสเงินสดเข้าเฉลี่ยปีละ 2.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะมีเงินสดขาดมือบ้างหลังปี 2561 ประมาณ 3 ปี เฉลี่ย 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะพิจารณากู้เงินในประเทศเข้ามาเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้จะต้องดูรายรับจากการเติบโตของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและรายจ่ายประกอบอีกครั้ง
***ต่ออายุให้ส่วนลดแอร์ไลน์ในช่วงเวลาไม่คับคั่งอีก 2 ปี
นอกจากนี้ บอร์ดเห็นชอบต่ออายุโครงการส่งเสริมการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงเวลาไม่คับคั่ง (Off-Peak) สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง อีก 2 ปี ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2559 ถึง 31 มี.ค. 2561 โดยจะลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยานสำหรับเที่ยวบินประจำ 95% เที่ยวบินเช่าเหมาลำ 50% ในส่วนสุวรรณภูมิในช่วงเวลา 02.00 ถึง 06.59 น. ดอนเมือง ช่วงเวลา 00.00 ถึง 04.59 น. เพื่อจูงใจให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินในช่วงเวลาไม่คับคั่งมากขึ้น ส่วนที่เชียงราย หาดใหญ่ ให้ต่ออายุโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการบินออกไปอีก 2 ปี (31 มี.ค. 60-31 มี.ค. 62)
***แจงอาหารสนามบินแพง ยันคุมไม่เกิน 20% เตรียมหาพื้นที่ตั้งร้านราคาถูก
สำหรับกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องอาหารในสนามบินราคาแพงนั้น ต้องทำความเข้าใจว่าสัญญาเช่าพื้นที่ร้านค้าของ ทอท.กับผู้ประกอบการมี 2 ส่วน คือสัญญาใหม่ซึ่งจะมีเงื่อนไขระบุให้สามารถขายในราคาที่สูงไม่เกิน 20% ของราคาขายในห้างได้ ส่วนสัญญาเก่าจะไม่มีเงื่อนไขกำหนด ไม่สามารถใช้สัญญาบังคับได้ ดังนั้น ทอท.ต้องใช้วิธีขอความร่วมมือ ซึ่งราคาขายจะต้องอยู่ในระดับที่ผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ด้วย โดยตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.ผู้ประกอบการได้เริ่มปรับลดราคาลงแล้ว เช่น น้ำดื่ม ขนาด 500 ซีซี เหลือ 10 บาท ทั้งนี้ บอร์ดได้หารือและเห็นว่าควรมีพื้นที่สำหรับอาหารราคาพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันมีแต่จะต้องทำป้ายบอกให้ชัดเจนมากขึ้น ในระยะยาวเมื่อสัญญาเก่าหมดการต่อสัญญาใหม่จะมีเงื่อนไขเรื่องไม่เกิน 20% กำหนดไว้ด้วย ทั้งนี้ ที่ดอนเมืองจะมีที่อาคาร 1 ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเดิมที่ ทอท.ขอให้เข้ามาช่วงหลังน้ำท่วมสนามบิน แต่จะทยอยหมดสัญญาใน 1-2 ปีนี้
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) มี 7 งาน โดยจะเปิดประมูลในปีนี้รวม 4 งาน ซึ่งขณะนี้ได้เปิดประมูลแล้ว 2 งาน คือ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) งบประมาณ 14,164.41 ล้านบาท และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค งบประมาณ 2,564.97 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-4 เมษายน 2559 และในสัปดาห์หน้าจะเปิดประมูลงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน วงเงิน 900 ล้านบาท และงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) วงเงิน 3,000 ล้านบา ท ส่วนงานที่เหลือจะทยอยเปิดประมูลได้ในปีงบประมาณ 2560 แน่นอน