“พาณิชย์” เตรียมชง นบข.ไฟเขียวขายข้าวตรงให้ผู้ส่งออกไทยที่มีออเดอร์ต่างประเทศ และโบรกเกอร์ต่างชาติที่ติดต่อขอซื้อตรง หวังช่วยระบายสต๊อก คาดปีนี้น่าจะส่งออกข้าวได้มากกว่าเป้า 9.5 ล้านตัน หลังภัยแล้งรุนแรง ทำข้าวคู่แข่งเสียหาย พร้อมบินถกจีน จี้ทำสัญญาซื้อข้าวไทยอีก 1 ล้านตัน
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแนวคิดจะขายข้าวในสต๊อกรัฐให้กับผู้ส่งออกและผู้ซื้อต่างชาติ เช่น นายหน้าขายข้าว (โบรกเกอร์) จากต่างประเทศ โดยจะเปิดให้นำคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากต่างประเทศ มาติดต่อขอซื้อข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ได้โดยตรง ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นวิธีการเพิ่มเติมจากการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปที่ดำเนินการอยู่ตามปกติ และขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศกำลังอยู่ระหว่างการยกร่างหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการขาย (ทีโออาร์) คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ และจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาได้ทันที
“ที่ผ่านมาทั้งผู้ส่งออกของไทยและโบรกเกอร์จากต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ถามมาตลอดว่าจะเปิดให้ติดต่อขอซื้อโดยตรงได้เมื่อไร เราก็อยากขาย แต่ต้องทำทีโออาร์ให้รัดกุม โดยเน้นความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และเท่าเทียมกัน โดยอาจต้องกำหนดปริมาณขั้นต่ำที่จะขายในแต่ละครั้ง ส่วนตัวคิดว่าเป็นหลักหมื่นตันขึ้นไป รวมถึงต้องมีออเดอร์และมีใบส่งออกจริงมาแสดงด้วย วิธีการนี้น่าจะทำให้ไทยขายข้าวออกจากสต๊อกได้เพิ่มขึ้นมากพอสมควร”
น.ส.ชุติมากล่าวว่า สำหรับการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายที่ 9.5 ล้านตันนั้น คาดว่าน่าจะทำได้มากกว่าเป้าหมาย เพราะคาดว่าภาวะภัยแล้งจะส่งผลให้ผลผลิตข้าวทั่วโลกเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะอินเดีย และเวียดนาม คู่แข่งสำคัญของไทย และจะทำให้ผู้ซื้อหันมาซื้อข้าวจากไทยมากขึ้น เพราะยังมีสต๊อกจำนวนมาก และกระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะระบายข้าวในสต๊อกออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับหลายประเทศซึ่งในเดือน มิ.ย.นี้จะเดินทางไปเจรจาขายข้าวที่ประเทศโมซัมบิกและแอฟริกาใต้ คาดว่าน่าจะได้ออเดอร์หลายแสนตัน เพราะที่ผ่านมาโมซัมบิกเคยซื้อข้าวจากไทยปีละ 6 แสนตัน แต่ปัจจุบันไม่ได้ซื้อแล้วเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว รายได้ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง มีแต่เงินสกุลท้องถิ่นจึงทำการค้าด้วยกันยาก
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้หากเป็นไปได้กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าหมายขายข้าวในสต๊อกรัฐที่ล่าสุดมีอยู่ราว 11.4 ล้านตัน ให้หมด แต่จะเหลือสำรองไว้เพื่อความมั่นคง 2-3 ล้านตันเท่านั้น
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า วันที่ 12-13 พ.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อคามร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยกระทรวงคมนาคม จะเจรจาความคืบหน้าเรื่องการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย หลังจากที่ไทยเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนมาเป็นลงทุนเองทั้งหมด โดยว่าจ้างจีนเป็นผู้ก่อสร้าง ส่วนกระทรวงพาณิชย์ซึ่งตนเห็นหัวหน้าคณะ จะหารือกับบริษัท คอฟโก รัฐวิสาหกิจของจีน เรื่องการทำสัญญาซื้อข้าวไทยอีก 1 ล้านตัน ภายใต้บันทึกความตกลง (เอ็มโอยู) ที่จีนได้ลงนามจะซื้อข้าวไทย 2 ล้านตัน แต่ได้ทำสัญญาไปแล้ว 1 ล้านตัน ยังเหลืออีก 1 ล้านตัน รวมถึงจะเจรจาให้จีนซื้อสินค้าเกษตรอื่นๆ จากไทยเพิ่มเติมด้วย เช่น มันสำปะหลัง ที่จีนมีความต้องการมาก