“ดวงพร” เตรียมเสนอวิธีระบายข้าวรูปแบบใหม่ให้คณะอนุกรรมการระบายข้าวพิจารณาวันที่ 23 มี.ค.นี้ หลังเหลือข้าวทุกเกรดผสมในคลังเดียวกัน จำเป็นต้องปรับรูปแบบการระบายใหม่ พร้อมเดินหน้าหาออเดอร์จีทูจี เพื่อเพิ่มยอดการส่งออกข้าวไทย เตรียมบุกฮ่องกง 5-7 เม.ย.นี้
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว วันที่ 23 มี.ค. 2559 กรมฯ จะเสนอแนวทางระบายข้าวรูปแบบใหม่ เพราะคลังที่มีข้าวเกรดเดียวกันในคลังเดียวจะระบายล็อตสุดท้าย ซึ่งเป็นครั้งที่ 2/2559 ที่กำลังจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในวันที่ 30-31 มี.ค.นี้ ทำให้สต๊อกข้าวสารรัฐบาลที่เหลือปริมาณ 12 ล้านตัน เป็นคลังที่มีข้าวผสมระหว่างข้าวเกรดพี เอ บี และเกรดซี ในคลังเดียวกัน จึงต้องหาวิธีการระบายใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคุณภาพข้าว
“ได้คิดรูปแบบการระบายเอาไว้แล้ว และได้มีการหารือกับผู้ประกอบการ ทั้งโรงสีและผู้ส่งออกข้าวไปแล้ว เช่น ให้เสนอราคาทุกเกรดในคลังนั้น ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ปฏิบัติยาก จึงต้องเปิดรับฟังและนำมาปรับแก้ไข เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ ขณะนี้ก็มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าจะเลือกวิธีใด และหากวิธีที่เลือกไม่ใช่แนวทางที่เกินกว่ากรอบที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติไว้ ก็สามารถปรับดำเนินการได้ ไม่จำเป็นต้องเสนอ นบข.อีก”
นางดวงพรกล่าวว่า สำหรับการส่งออกข้าวในเดือน ก.พ. 2559 ไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณ 9 แสนตัน ถือว่ายังอยู่ในระดับปกติ แม้ว่าจะลดลงจากเดือน ม.ค. ที่ส่งออกได้ 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก เนื่องจากเป็นการส่งมอบข้าวที่ขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในหลายๆ ตลาด เช่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ทำให้ปริมาณการส่งออกในเดือน ม.ค.สูงมาก
ทั้งนี้ กรมฯ มีแผนจะผลักดันการส่งออกข้าวไปยังตลาดจีทูจีเพิ่มขึ้น ซึ่งเตรียมเดินทางไปกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อหารือกับบริษัท คอฟโก รัฐวิสาหกิจจีน ในการเจรจารายละเอียดของการขายข้าว 1 ล้านตันแรก ที่เป็นการตกลงซื้อขายของรัฐบาลชุดปัจจุบันช่วงปลาย มี.ค.นี้ และในวันที่ 5-7 เม.ย. 2559 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐบาลและผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางเยือนประเทศฮ่องกง เพื่อเจรจาขายข้าวกับฮ่องกง คาดว่าจะสามารถผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปตลาดฮ่องกง โดยเฉพาะการส่งออกข้าวสี เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะตลาดฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นตลาดภัตตาคารและร้านอาหารมีกำลังซื้อ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ซึ่งมีแนวโน้มจะทยอยเปิดนำเข้าข้าว ส่วนตลาดอิหร่านอยู่ระหว่างประสานให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเดินทางมาตรวจสอบคุณภาพข้าวในไทย
สำหรับการเปิดประมูลข้าวครั้งที่ 2/2559 ปริมาณรวม 6.4 แสนตัน เป็นการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไปปริมาณ 4.18 แสนตัน และข้าวเข้าภาคอุตสาหกรรม 2.23 แสนตัน โดยเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 30-31 มี.ค.นี้ ซึ่งหลักเกณฑ์ในส่วนการประมูลข้าวเพื่ออุตสาหกรรม ได้ปรับเปลี่ยนกลับไปใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการประมูลข้าวเพื่ออุตสาหกรรมครั้งแรก คือ จำกัดไม่ให้ใช้เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารคนและอาหารสัตว์ เนื่องจากสภาพข้าวไม่เหมาะแก่การบริโภค