ผู้จัดการรายวัน 360 - ฟิลิปส์พุ่งเป้าจับเทรนด์สุขภาพ ชูเครื่องมือแพทย์บุกตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้น พร้อมส่ง 20 สินค้าใหม่ตีตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในครัวเรือน รักษาฐานผู้นำจับตลาดกลางขึ้นบน มั่นใจสิ้นปีรายได้โตหรือเท่ากับตลาดได้
นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจเครื่องมือแพทย์ เปิดเผยว่า รอยัลฟิลิปส์ได้ประกาศทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ทั่วโลก เมื่อเดือน ก.ย. 2557 เน้นเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ โดยแยกการบริหารธุรกิจออกเป็น 2 บริษัท บริษัทแรกทำธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ อีกบริษัททำธุรกิจโซลูชันไฟฟ้าแสงสว่าง
โดยในไทยได้แยกบริษัทออกเป็น 2 ธุรกิจเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างบริหารงานโดย บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกลุ่มธุรกิจสำหรับเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ บริหารงานภายใต้บริษัทใหม่ คือ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ ในส่วนของฟิลิปส์ (ประเทศไทย) ซึ่งมี 2 กลุ่มสินค้าหลัก คือ เครื่องมือแพทย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กในครัวเรือน ปีนี้จะให้ความสำคัญในส่วนของลูกค้ากลุ่มบีทูซี และการนำเสนอสินค้าใหม่ ภายใต้งบการตลาดที่ใช้มากขึ้นทุกปี แต่วิธีการทำตลาดเปลี่ยนไป เน้นในเรื่องการให้ความรู้และจัดสัมมนามากขึ้น
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า ในส่วนของเครื่องมือแพทย์ เดิมจะเน้นในกลุ่มบีทูบี ปีนี้จะมีโปรดักต์ใหม่ๆ รุกตลาดบีทูซีในรูปแบบบริษัท และองค์กรมากขึ้น เช่น เครื่องฟื้นคลื่นหัวใจแบบอัตโนมัติ (AED) เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) เชื่อว่าสิ้นปีสินค้ากลุ่มนี้จะมีอัตราการเติบโตมากกว่า หรือเท่ากับตลาด 10,000 ล้านบาท ที่ฟิลิปส์เข้าไปทำตลาดและติดท็อป 3 ของภาพรวมตลาดเครื่องมือแพทย์ทั้งหมดมูลค่า 30,000 ล้านบาทได้
ด้าน นางสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจเพอร์ซันนัลเฮลท์ รับผิดชอบตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ปีนี้จะเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาอีก 20 รายการ จากทั้งหมดที่จำหน่ายอยู่ 150 รายการ เน้นกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางถึงบนเป็นหลัก เชื่อว่าในแต่ละไลน์โปรดักต์ที่ฟิลิปส์ทำตลาดอยู่จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำและมียอดขายเติบโตมากกว่าหรือใกล้เคียงกับตลาดได้
เช่น 1. ตลาดเครื่องปั่นและเตารีด ปีนี้เชื่อว่าจะเติบโต 16% จาก 1,350 ล้านบาท 2. หม้อหุงข้าว เติบโต 11% จาก 2,720 ล้านบาท 3. เตารีด โต 5% จาก 1,670 ล้านบาท 4. เครื่องดูดฝุ่น โต 5% จาก และ 5. อุปกรณ์จัดแต่งผม โต 5% จาก 500 ล้านบาท
“ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กยังคงมีอัตราการเติบโตได้เรื่อยๆ ซึ่งไตรมาสหนึ่งนี้มองว่ากำลังซื้อยังดีอยู่ แต่ไตรมาสสองจะลดลง เป็นไปตามกลไกตลาด ถือเป็นช่วงโลว์ซีซัน อีกส่วนอาจมาจากกำลังซื้อที่ไม่มีอารมณ์ใช้จ่ายแม้จะมีเงินในกระเป๋า บวกกับปัญหาภัยแล้ง และราคาพืชผลทางการเกษตร หากดีจะส่งผลให้ตลาดโตได้”
ปัจจุบันทั้ง 2 กลุ่มสินค้าเป็นการนำเข้าทั้งหมดจากต่างประเทศ ซึ่งในไทยยังไม่มีแผนที่จะลงทุนตั้งฐานการผลิต โดยสิ้นปีนี้ตั้งเป้ายอดขายจากทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 50% เท่าๆ กัน ขณะที่ตลาดสุขภาพในเอเชีย ไทยมีการเติบโตอยู่ในระดับท็อปไฟว์ โดย 2 ประเทศที่มีการเติบโตสูงสุด คือ เวียดนาม และฟิลิปปินส์