xs
xsm
sm
md
lg

“CMO” โชว์ฟอร์มปี 58 กวาด 1,369 ล้าน ปีลิงขยายนอนอีเว้นท์-ลุยอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผลงานการจัดอีเว้นต์ของซีเอ็มโอ
ผู้จัดการรายวัน 360- “ซีเอ็มโอ” เปิดผลงานปี 58 เติบโตสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำรายได้ 1,369 ล้านบาท พลิกมีกำไร 34 ล้านบาท พร้อมประกาศความเป็นผู้นำธุรกิจอีเว้นท์อันดับ 1 ของไทย หลังยอดขายพุ่ง เผยปัจจัยมาจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นในคุณภาพของงานและศักยภาพของบริษัทฯ แย้มแผนปี 59 เดินหน้า 3 กลยุทธ์ “รักษาความเป็นผู้นำตลาดอีเว้นท์ไทย - ขยายธุรกิจนอนอีเว้นท์ สร้างรายได้คงที่ - เดินหน้าบุกตลาดอาเซียน” ตั้งเป้าปี 59 โกยรายได้ทั้งปี 1.4 พันล้านบาท

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน ครอบคลุมธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นต์และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2558 (มกราคม-ธันวาคม 2558) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 301 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 34 ล้านบาท จากการเติบโตนี้ ทำให้บริษัทพลิกกลับมามีกำไร นอกจากนี้ยังเป็นปีที่บริษัทฯ ทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์

“ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าบริษัทฯ เติบโตโดดเด่นอย่างมากด้วยยอดขายที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตอกย้ำว่าเราเป็นบริษัทอีเว้นท์อันดับ 1 ของประเทศไทยที่มีเส้นทางเติบโตอย่างมั่นคงมาตลอด 30 ปี โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ลูกค้ามีความไว้วางใจใช้บริการและเชื่อมั่นในคุณภาพงานของบริษัทฯ โดยมีลูกค้าหลากหลายครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม และบริษัทฯ สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมได้เป็นอย่างดี”

สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการกันมาตลอดอย่างยาวนาน อาทิ โฮมโปร (HomePro), ทรู คอร์ปอเรชั่น (True), ฟอร์ด ประเทศไทย, (Ford) และตรีเพชรอีซูซุเซลส์ (Isuzu) เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีลูกค้าใหม่เข้ามาอีกมากมาย เช่น ไลน์ ประเทศไทย (LINE), หัวเว่ย (Huawei), คิง พาวเวอร์ (King Power) และโคคา-โคลา (Coke) เป็นต้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้พัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจ “โมเมนตัมเอส” ซึ่งจัดอีเว้นท์ Private Lifestyle ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเซเลปดารา และจัดงานเปิดตัวสินค้าด้านแฟชั่นให้กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ อีกมากมาย

สำหรับกลยุทธ์การตลาดปี 2559 บริษัทฯ จะดำเนินงานตามแผนธุรกิจ โดยแบ่งเป็น 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.รักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเว้นท์เอเจนซี่อันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยการพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพของบุคลากรให้มีไอเดียสร้างสรรค์ ใหม่ๆ เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า ตลอดจนนำเทคนิคที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจทั้งในแง่ของการเป็นผู้บริหารการจัดงาน (Event Organizer) และในกลุ่มของงานด้านบริการระบบภาพ แสงและเสียง แบบครบวงจร ซึ่งเป็นกลุ่มงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ โดยผลงานที่โดดเด่น อาทิ เป็นซัพพลายด้านระบบภาพแสงและเสียงในการแข่งขันมวยไทยนานาชาติ THAI FIGHT, คอนเสริ์ตในกลุ่มของบีอีซี เทโร (BEC TERO) ทั้งศิลปินไทยและต่างประเทศ รวมถึงเข้าไปมีส่วนร่วมให้บริการด้านภาพและเสียงในรายการโทรทัศน์ชั้นนำกว่า 5 รายการ อีกด้วย

กลยุทธ์ที่ 2 ต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลายเพื่อสร้างรายได้ประจำให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ จะเปิดตัว “หิมพานต์ อวตาร” ซึ่งเป็นการแสดงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยผสานเทคนิคแสงสีเสียง นับเป็น Cultural Walking Theme Park แห่งแรกในประเทศไทย โดยจะตั้งอยู่ที่ Show DC เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แห่งใหม่ ย่านพระราม 9 นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจสวนสนุก “อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์” (Imaginia Playland) ที่เที่ยวสำหรับเด็กตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้า “ดิ เอ็มโพเรี่ยม” เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 อีกด้วย

“บริษัทฯ ต้องปรับตัว เพื่อสร้างความมั่นคงให้บริษัทฯ ในระยะยาว และสร้างความสมดุลสัดส่วนรายได้ให้คงที่ โดยเริ่มพัฒนาธุรกิจที่ไม่ใช่แค่การจัดอีเว้นท์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เช่น การให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ถาวรและทำ Mapping ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นที่ Bangkok Creative Playground ซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ CMO โดยเราเปิดบริการให้เช่าสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์, ละคร ตลอดจนภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งที่ผ่านมาก็สร้างรายได้ประมาณ 3 ล้านบาท”

สำหรับกลยุทธ์ที่ 3 ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาเซียน เน้นที่กลุ่มประเทศ CLMV (ประเทศกัมพูชา,ลาว,เมียนมาร์ และเวียดนาม) โดยรูปแบบจะพิจารณาจากเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ เป็นหลัก แต่จะเป็นในลักษณะของงานกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) มากกว่า โดยจะรุกตลาดไปพร้อมกับแบรนด์ของไทยที่มีแผนจะขยายงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ผลงานที่ผ่านมาในตลาดอาเซียน ได้แก่ แคมเปญ SEA Games Lucky Cards ที่ประเทศพม่า ,จัดแสดงโชว์แสงเสียงที่ Angkor Wat ประเทศกัมพูชา และจัดงานเปิดโรงงานโคคา-โคล่า ที่ประเทศลาว เป็นต้น

“บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 59 ประมาณ 1.4 พันล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเป็น 2 พันล้านบาท ในปี 2561 แบ่งเป็นอีเวนท์ 70% และธุรกิจใหม่ 30% รวมทั้งได้ปรับสัดส่วนฐานลูกค้าภาครัฐเหลือเพียง 20% และเอกชน 80% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ได้แน่นอน” นายเสริมคุณ กล่าวทิ้งท้าย



กำลังโหลดความคิดเห็น