xs
xsm
sm
md
lg

“อินเด็กซ์” ปรับเกมรับ “เวฟ” มุ่งธุรกิจใหม่ลดเสี่ยงอีเวนต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เกรียงไกร-เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน
อินเด็กซ์จับมือเวฟปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ชูไลฟ์สไตล์-อาเซียน ลดเสี่ยงอีเวนต์ถดถอย จับกลุ่มผู้บริโภคเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่จากเดิมเป็นบีทูบี หวังสิ้นปีโต 5-10% แตะ 1,700 ล้านบาท ด้านเวฟมั่นใจต่อยอดธุรกิจสร้างคอนเทนต์แกร่ง สู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดด้านไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วยรายได้ 8,000 ล้านบาทในปี 60

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาร่วมถือหุ้นในสัดส่วน 50% แทนจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ครั้งนี้ถือเป็นผลดีที่จะช่วยให้บริษัทมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

1. ครีเอทีฟ โซลูชั่น งานบริการด้านความคิดสร้างสรรค์ ประกอบไปด้วย อีเวนต์, ผลิตรายการทีวี, การตลาดดิจิตอล, อินสโตร์ มีเดีย, การสื่อสาร และงานด้านเอ็กซิบิชันและนิทรรศการถาวร 2. มาร์เกตติ้ง เซอร์วิส งานบริการส่งเสริมด้านการตลาด ประกอบด้วย งานวิจัย, ที่ปรึกษาธุรกิจ และบริการให้เช่าอุปกรณ์ (Equipment Supply)

3. อาเซียน วิงส์ (ASEAN Wings) การขยายธุรกิจอีเวนต์และกลุ่มไลฟ์สไตล์ในอาเซียน และ 4. ธุรกิจไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ประกอบด้วย การจัดคอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศ, โชว์บิซ, ไลฟ์ เฟสติวัล และนิทรรศการรูปแบบโรดโชว์ (Traveling Exhibition) ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เป็นโครงสร้างธุรกิจกลุ่มใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ราว 2% และภายใน 5 ปีจะเพิ่มเป็น 25-30% ด้วยการขยายธุรกิจเพิ่มเติมทั้งการผลิตคอนเทนต์ คอนเสิร์ต โชว์บิซ การงานแสดงรูปแบบใหม่

“2 ปีที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจอีเวนต์เติบโตลดลง รายได้หลักของอินเด็กซ์ที่มาจากธุรกิจอีเวนต์ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งขยายธุรกิจใหม่ต่อเนื่องเพื่อกระจายรายได้และลดความเสี่ยงจากธุรกิจหลักอีเวนต์ในประเทศไทย โดยการทำงานร่วมกับเวฟ หลังจากนี้จะมุ่งขยายธุรกิจในกลุ่มอาเซียน ทั้งธุรกิจอีเวนต์ การผลิตคอนเทนต์ และกลุ่มไลฟ์สไตล์ ที่ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในพม่าและเวียดนามแล้ว หลังจากนี้จะขยายเพิ่มเติมในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางด้านความคิดสร้างสรรค์ (Hub of Creativity)”

นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนางานนิทรรศการรูปแบบโรดโชว์ที่สามารถจัดแสดงได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีรายได้จากการจำหน่ายตั๋วเข้าชม ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

การทำงานร่วมกับเวฟด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์จะทำให้อินเด็กซ์ฯ ขยายฐานธุรกิจสู่การทำตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น (Business to Consumers) จากเดิมบริษัทให้บริการกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (Business to Business) เป็นหลัก

จากการปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ มองว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้ 1,600-1,700 ล้านบาท เติบโต 5-10% และภายใน 3 ปี หรือในปี 2561 วางเป้าหมายรายได้ 3,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มครีเอทีฟ โซลูชัน จะมีสัดส่วน 40% ที่ลดลงจาก 55% ในปีนี้ ส่วนกลุ่มมาร์เกตติ้ง เซอร์วิส, อาเซียน วิงส์ และ ไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จะมีสัดส่วนรายได้ใกล้เคียงกัน คือกลุ่มละ 20%

ด้านนายแมทธิว กิจโอธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัทเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาร่วมถือหุ้นในอินเด็กซ์ ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการสานต่อเป้าหมายและรายได้ 8,000 ล้านบาทในปี 2560 ภายใต้เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดด้านไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์

“อินเด็กซ์ฯ มีทีมงานกว่า 500 คน ที่พร้อมทำงานด้านงานสร้างสรรค์และการผลิตคอนเทนต์ พร้อมขยายการทำงานด้านการผลิตรายการร่วมกับเวฟ ทีวี โปรดักชั่นส์ในปัจจุบัน ในสถานการณ์การเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล สู่การเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์โพรวายเดอร์ที่สำคัญ ด้วยการต่อยอดธุรกิจพัฒนางานในรูปแบบใหม่ๆ สู่การเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์และบันเทิงครบวงจรให้กับกลุ่มไลฟ์สไตล์ของบริษัท ทั้งด้านธุรกิจอาหาร, แฟชั่น, การศึกษา และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำไปผลิตเป็นคอนเทนต์เผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อทีวีและออนไลน์ ตอบโจทย์พฤติกรรมการเสพสื่อของกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและกลุ่มเริ่มต้นทำงาน” นายแมทธิวกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น