ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” ชูศักยภาพความพร้อมของประเทศไทย ในฐานะจุดหมายปลายทางเพื่อการดำเนินกิจกรรมองค์กรที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ชู 4 แนวทางการร่วมกิจกรรมไมซ์ทั้งก่อนและหลังการประชุม ยกระดับการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาสังคม ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงสิ่งแวดล้อมของนักเดินทางกลุ่มไมซ์เจาะกลุ่มโอเชียเนีย
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยถึงแผนกระตุ้นการขายอุตสาหกรรมไมซ์ไทยโดยเฉพาะตลาดโอเชียเนียว่า ปัจจุบันการพัฒนาอย่างยั่งยืนถือเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจและการจัดกิจกรรมไมซ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจากนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่จะเลือกเดสติเนชันสำหรับการจัดงาน “ทีเส็บ” จึงดึงกลยุทธ์การโปรโมตไมซ์ไทยผ่านกิจกรรมซีเอสอาร์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาเป็นจุดขาย เน้นแนวทางการขาย “Thailand, Sustainability & Soulful CSR Destination” สร้างความโดดเด่นให้ประเทศไทยผ่านกิจกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการเพื่อสังคมของกลุ่มนักเดินทางกลุ่มไมซ์
แนวทางดังกล่าวอยู่ภายใต้ 4 แนวทางหลัก คือ 1. กิจกรรมซีเอสอาร์บริเวณชายทะเล โดยมีหลายพื้นที่สามารถรองรับกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่นไทย, การจัดกิจกรรมไมซ์เชิงนิเวศที่บ้านทะเลนอก จ.ระนอง หมู่บ้านท่าแพย้อย จ.พังงา คลองลุ จ.กระบี่ กิจกรรมปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปลูกปะการังและป่าชายเลน เช่น กิจกรรมอนุรักษ์ปลาการ์ตูน จ.กระบี่ มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต และวนอุทยานป่าโกงกางปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
2. กิจกรรมซีเอสอาร์ในกรุงเทพฯ เน้นกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยสามารถออกแบบกิจกรรมเพื่อนักเดินทางกลุ่มไมซ์ อาทิ กิจกรรมการอ่านหนังสือเสียงเพื่อผู้พิการทางสายตา คาดว่าจะเพิ่มความสามารถในการผลิตสื่อตอบสนองความต้องการของผู้พิการทางสายตาให้มากขึ้น กิจกรรมองค์กรด้านศาสนา อาทิ สักการะหกองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่สี่แยกถนนราชประสงค์ กิจกรรมองค์กรที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านการจับจ่ายใช้สอย อาทิ การสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิเพื่อคนไทย ถนนคนเดินย่านราชประสงค์ นับเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรมีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างสังคมที่มั่งคั่ง
3. กิจกรรมซีเอสอาร์ในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตร พร้อมเปิดโอกาสให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์สามารถเชื่อมโยงกิจกรรมจากในห้องประชุมสู่พื้นที่ฟาร์มการเกษตร (Farm to Functions) ที่สวนสามพราน จ.นครปฐม สัมผัสประสบการณ์ในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์และสินค้าเกษตรอินทรีย์ในท้องถิ่นที่ฟาร์มโชคชัย จ.นครราชสีมา บ้านแม่จันใต้ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร จ.เชียงราย การทำโป่งเทียมและการสร้างฝายเพื่อช่วยอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เป็นต้น
4. กิจกรรมตามรอยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ริเริ่มขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและการทำไร่เลื่อนลอย ความยากจนของประชาชน และการปลูกฝิ่น โดยแนวคิดการพัฒนาดังกล่าวถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ นักเดินทางกลุ่มไมซ์สามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาตามรอยพ่อหลวงได้จากโครงการในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์โครงการหลวงหนองหอย สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ โครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จ.เชียงราย โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี เป็นต้น
นายนพรัตน์กล่าวต่อไปว่า “ทีเส็บ” ใช้จุดขายของประเทศไทยในฐานะเมืองแห่งการจัดกิจกรรมไมซ์อย่างยั่งยืน และการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมเสนอแก่กลุ่มลูกค้าไมซ์โอเชียเนียเป็นครั้งแรกในงาน Asia-Pacific Incentives & Meetings Expo 2016 หรือ AIME 2016 ที่จัดขึ้น ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยผู้ประกอบการไมซ์ไทยกว่า 20 รายต่างใช้แนวคิดนี้ในการโปรโมตประเทศไทยแก่กลุ่มลูกค้าไมซ์โดยเฉพาะออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่เข้าร่วมงานซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งและเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเป้าการเติบโตไมซ์ปี 2559 ที่คาดการณ์ตลาดเติบโตร้อยละ 5 จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 1,089,000 คน สร้างรายได้ 92,000 ล้านบาท
