ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซัมซุง” ปลุกตลาดตู้เย็น อัดงบฯ มากกว่า 3 เท่าตัวดันเป็นพระเอกกระทุ้งยอดในปีนี้ ล่าสุดเปิดตัวครั้งแรกในโลกกับรุ่น “ทวิน คูลลิ่ง พลัส” มั่นใจสิ้นปีดันรายได้กลุ่มตู้เย็น 2 ประตูเติบโต 30% และเป็นกลุ่มสินค้าที่มีรายได้เติบโตมากที่สุดในปีนี้
นางศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดตู้เย็นค่อนข้างเงียบ ส่วนสำคัญมาจากเป็นตลาดที่มีฐานขนาดใหญ่ทุกบ้านมีตู้เย็นกันเกือบหมดแล้ว ผู้เล่นในตลาดจึงไม่ค่อยเน้นทำตลาดนี้ โดยจะเห็นว่างบการตลาดสำหรับตู้เย็นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าราว 50% ของตลาดรวม ขณะที่ภาพรวมตลาดตู้เย็นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ปีนี้น่าจะเติบโตในแง่มูลค่า 3-4% โดยเฉพาะเซกเมนต์ 2 ประตูเป็นกลุ่มที่ช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตมากสุด โดยเป็นการเติบโตจากการซื้อเปลี่ยน หรือเป็นเครื่องที่สองของบ้าน
ปัจจุบัน “ซัมซุง” เป็นผู้นำตลาดตู้เย็นรวม ล่าสุดพร้อมใช้งบฯ การตลาดมากกว่า 3 เท่าตัว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการเปิดตัว ตู้เย็น “ซัมซุง ทวิน คูลลิ่ง พลัส” ในกลุ่มตู้เย็น 2 ประตู เริ่มตั้งแต่ขนาด 10-20 คิว ราคาเริ่มตั้งแต่ 13,990-39,990 บาท ถือเป็นเซกเมนต์ที่มีนวัตกรรมความเย็น 2 ระบบเป็นรายแรก มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและทำให้ส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นอีก หรือมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ในเซกเมนต์ 2 ประตู
นางสาวเสาวนีย์ สิราริยกุล ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ผลิตภัณฑ์ตู้เย็น “ซัมซุง ทวิน คูลลิ่ง พลัส” แบบ 2 ประตูถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ “ซัมซุง” ที่ตั้งเป้าการเติบโตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยตู้เย็นขนาด 2 ประตูที่มีขนาดใหญ่ทั้งหมดจะเปลี่ยนมาใช้ระบบทวิน คูลลิ่ง พลัส ทั้งหมด ส่วนระบบเดิมนั้น บริษัทฯ ได้ทำการตลาดปล่อยสินค้าออกสู่ตลาดให้หมดไปแล้วผ่านกิจกรรมโปรโมชันส่งเสริมการตลาดต่างๆ ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน โดยเริ่มวางจำหน่ายระบบใหม่มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
“ตู้เย็น ซัมซุง ทวิน คูลลิ่ง พลัส ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เนื่องจากไทยเป็นฐานผลิตที่ส่งออกไปทั่วโลก โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นบน หรือมีราคาเฉลี่ยสูงกว่าปกติราว 10% เท่านั้น โดยซัมซุงถือเป็นผู้นำและเป็นรายแรกที่นำนวัตกรรมความเย็น 2 ระบบมาใช้กับตู้เย็น 2 ประตู มั่นใจว่าจะทำให้ตลาดมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น”
ในส่วนของแผนการทำตลาดนั้นจะเน้นทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะออนไลน์จะเริ่มมีกิจกรรมแคมเปญเอาใจแม่บ้านยุคใหม่มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์และเป้าหมายระดับพรีเมียมซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ “ซัมซุง” ขณะเดียวกัน ในส่วนของออฟไลน์จะมีการจัดโรดโชว์ไปยังห้างสรรพสินค้าและร้านค้าจุดจำหน่ายต่างๆ กว่า 100 ร้านทั่วประเทศด้วย มั่นใจว่าถึงสิ้นปีรายได้รวมตู้เย็นจะมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30-40% ของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็น โดยในกลุ่มนี้ทำรายได้ให้ “ซัมซุง” 40% ของรายได้รวมทั้งหมด จากทั้งหมด 3 กลุ่มหลัก โดยที่เหลืออีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มจอภาพ และกลุ่มโทรศัพท์มือถือ
