“โตชิบา” คิกออฟสินค้าหน้าร้อน

ผู้จัดการรายวัน360 - “โตชิบา” มองเกมเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้เป็นบวก เชื่อมาตรการภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วยผู้บริโภค คิกออฟลุยสินค้าหน้าร้อน ส่ง 2 สินค้าหัวหอกทะลวงตลาดแอร์และตู้เย็น เชื่อจบปี 59 รายได้โต 5%

นายมาซาอากิ คิมุระ ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดีแต่ปีนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะการที่ภาครัฐมีมาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นระยะๆ ทั้งการผลักดันให้เมกะโปรเจกต์ต่างๆ เกิดได้เร็วขึ้น รวมถึงมาตรการด้านภาษี ราคาสินค้าภาคการเกษตร และภาวะด้านท่องเที่ยว ล้วนแต่เป็นมาตรการที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น “โตชิบา” จึงหันมาให้ความสำคัญในการทำตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้ปีงบประมาณ 2558 (เม.ย.58-มี.ค.59) ทรงตัวเท่าปีก่อน หรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย

นายบุนยรัตย์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กล่าวว่า ปีนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากขึ้นและเน้นทำตลาดในช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันทำรายได้ไม่ถึง 5% ของรายได้รวม รวมถึงเจาะตลาด B2B มากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนน้อยแต่โอกาสในการเติบโตสูง

ล่าสุดเปิดตัวสินค้ากลุ่มฤดูร้อน 2 ชนิดคือ 1.กลุ่มตู้เย็น 1 ประตู รุ่น PLUS ขนาด 5.2 คิว และ 6.5 คิว รวมถึงตู้เย็นมินิบาร์ และตู้เย็นอินเวิร์ทเตอร์ขนาด 2 ประตู 2.กลุ่มเครื่องปรับอากาศอินเวิร์ทเตอร์ 2รุ่น คือ Daiseikai8 และรุ่นBF ภายใต้งบการตลาดรวม 3-5% ของยอดขายที่ตั้งไว้ เชื่อว่าถึงปลายปีในกลุ่มตลาดตู้เย็นรวมจะมีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 20% เป็นผู้นำตลาดต่อจากเดิมที่มีส่วนแบ่ง 19% ส่วนเครื่องปรับอากาศเพิ่งทำตลาดมาได้ 2-3ปี ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียงเลขตัวเดียว สิ้นปีน่าจะขยับส่วนแบ่งเพิ่มได้อีก

สำหรับตลาดตู้เย็นรวมปีนี้มองว่าจะมีความต้องการอยู่ที่ 1.5 ล้านเครื่องเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยกลุ่ม 1 ประตูมีส่วนแบ่งกว่า 55% และระดับราคาที่มีความต้องการมากสุดอยู่ที่ 8 พันบาท ทั้งนี้ มองว่าตู้เย็นขนาด 1 ประตูยังไม่ครอบคลุมครัวเรือนไทยทั้งประเทศ หรือสามารถเข้าถึงเพียง 50-60% ของจำนวนประชากร จึงยังมีช่องว่างให้ทำตลาดอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียม รวมถึงกลุ่มซื้อเปลี่ยน

ส่วนตลาดเครื่องปรับอากาศคาดว่าจะมีความต้องการอยู่ที่ 1.2 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 10% โดยความต้องการของตลาดอยู่ที่ราคา 1.2, หมื่นบาท โดยกลุ่มอินเวิร์ทเตอร์จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตขึ้น สำหรับ “โตชิบา” เชื่อว่าจากการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน

สินค้าตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศถือเป็นสินค้าหลักที่สร้ายรายได้ให้โตชิบารวมกันกว่า 30% เมื่อเทียบกับรายได้รวมทั้งหมด โดยที่เหลือมาจากกลุ่มคิทเช่น, ลิฟวิ่ง และไอที ขณะที่รายได้ในปีงบประมาณ 2558 ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา (เม.ย.58-ธ.ค.58) สามารถทำได้เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ส่วนช่วง 3 เดือนที่เหลือคาดว่าจะสามารถทำได้ดีขึ้น ทำให้ตลอดปีงบประมาณ 2558 มีรายได้รวมดีขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ถึง 5% โดยสัดส่วนการขายจะมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ 1.HA 55% 2.AV40% และ3.IT 5% อันเป็นผลมาจากการหันมาทำตลาด HA มากขึ้นจากเดิมช่วง 2 ปีก่อน ที่สัดส่วนยอดขายของโตชิบาเป็น HA 45% AV 35% และ IT 20%