xs
xsm
sm
md
lg

“ชุติมา” โชว์ผลงานพาณิชย์จังหวัด ทำโครงการผูกปิ่นโตข้าว จับคู่ซื้อขายข้าวอินทรีย์ พร้อมวางแผนแก้ปัญหาผัก ผลไม้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ชุติมา” โชว์ผลงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ทำโครงการผูกปิ่นโตข้าว จับคู่ผลิต-ผู้ซื้อข้าวอินทรีย์ที่อำนาจเจริญ ซื้อขายครั้งแรกกว่า 4.4 แสนบาท พร้อมวางแนวทางแก้ปัญหากระเทียม-กะหล่ำปลี-ลิ้นจี่ ป้องกันราคาตกต่ำ

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินการของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ริเริ่มจัดทำโครงการ ผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน เกษตรกรในเครือข่ายวิสาหกิจข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ โดยโครงการดังกล่าว เป็นการจับคู่กันระหว่างผู้ผลิต (เจ้าบ่าว) และผู้ซื้อ (เจ้าสาว) ในการซื้อข้าว เน้นข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรในเครือข่ายวิสาหกิจข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ และต้องเป็นข้าวที่มีมาตรฐานตามมาตรฐานเกษตรกรอินทรีย์ผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศใช้ไปแล้ว

“โครงการนี้เริ่มซื้อขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2559 มีจำนวนข้าวที่ขายได้ 919 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 44,245 บาท โดยมีเจ้าบ่าวในโครงการ 1 กลุ่ม มีสมาชิก 300 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์แล้ว และมีเจ้าบ่าวที่สนใจร่วมเข้าโครงการอีก 5 ราย แต่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบมาตรฐาน ปัจจุบันมีจำนวนเจ้าสาว 13 ราย เป็นบุคคลทั่วไป 11 ราย และร้านอาหาร 2 ราย โดยผู้สนใจติดตามข่าวสารไปทาง Facebook Fanpage: “Pookpintokaoamnat”, เว็บไซต์ www.pookpintokao-amnat.com และแอปพลิเคชัน Pookpintokao”

นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เชิญคณะผู้แทนการค้าเมืองลอยก่อ รัฐคะยา ร่วมประชุมกับภาครัฐ และหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งด่านลอยก่อจะเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่จะขยายสินค้าไทยเข้าสู่พม่าได้ทางด่านห้วยต้นนุ่น และสามารถเชื่อมไปสู่ด้านใต้ของทะเลสาบอินเล เมืองตองยี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของพม่า

ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้เร่งวางแนวทางช่วยเหลือผู้ปลูกกระเทียมที่ผลผลิตจะออกในเดือน มี.ค.นี้ โดยได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ และผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) สั่งซื้อกระเทียมล่วงหน้า เพื่อเพิ่มความต้องการซื้อสินค้า และช่วยดึงราคากระเทียมให้สูงขึ้น

ส่วนสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แก้ปัญหาให้ผู้ปลูกกะหล่ำปลี ที่ถูกพ่อค้ากดราคารับซื้อแบบเหมาสวนเพียง กก.ละ 1-2 บาท จากราคาตลาดกลางหล่มสักที่กก.ละ 4-5 บาท โดยให้เครือข่ายผู้รับซื้อที่ตลาดกลางศรีเมือง จังหวัดราชบุรี ช่วยรับซื้อผลผลิต และเปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Organic Farm Outlet) ที่ อ.เขาค้อ รวมถึงมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างท็อปส์ และบิ๊กซี กับกลุ่มเกษตรกร

ทางด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ได้เตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการผลผลิตลิ้นจี่ ปี 2559 ซึ่งจะออกสู่ตลาดเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ 8,737 ตัน โดยได้เชื่อมโยงตลาดกับห้างเทสโก้โลตัส ซึ่งจะสั่งซื้อผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพื่อจำหน่ายที่มาเลเซีย และสิงค์โปร์ อีกทั้งยังมีการจัดงานธงฟ้า 266 ครั้ง ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ มียอดจำหน่ายรวม 27.97 ล้านบาท ลดค่าครองชีพให้ประชาชน 115,215 คน ได้กว่า 19.65 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น