ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ ฟุ้งปีนี้รายได้โตกว่าปีก่อน เหตุรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าหงสาและนวนคร โดยปี 2558 บริษัทมีรายได้รวม 59,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,423 ล้านบาท และมีกำไร 3,188 ล้านบาท
นายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีรายได้จากการแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าหงสาซึ่งจะเดินเครื่องครบทั้งสามหน่วยในเดือน มี.ค.นี้ และโครงการผลิตไฟฟ้านวนคร กำลังผลิตติดตั้ง 132 เมกะวัตต์ ที่กำหนดเดินเครื่องในเดือน มิ.ย. 59 ซึ่งบริษัทถือหุ้นทั้งสองโครงการ 40%
ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2558 แม้ต้องประสบกับความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ราคาน้ำมันตกต่ำ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่แสดงถึงความมั่นคงของบริษัทฯ และรายการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ที่ปรากฎในปี 2558 เป็นการบันทึกบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ขณะที่รายได้จากการขายไฟฟ้าในปี 2558 มีจำนวน 51,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากปีก่อนหน้า รายได้จำนวนนี้มีสัดส่วนรายได้ของโรงไฟฟ้าราชบุรี และไตรเอนเนอจี้เป็นจำนวน 95.5% ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท
สำหรับการลงทุนใหม่ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จการร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ฟังเชงกังระยะ ที่ 2 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,360 เมกะวัตต์ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเงินลงทุน ประมาณ 7,500 ล้านบาท และได้ซื้อหุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-Gen) เพิ่มขึ้นเป็น 10.11% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายทั้งหมด ซึ่งทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากเงินปันผลทันทีในปีนี้ ผลจากการลงทุนทั้งสองรายการนี้ทำให้กำลังการผลิตตามการถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 6,816 เมกะวัตต์
ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2558 แม้ต้องประสบกับความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ราคาน้ำมันตกต่ำ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่แสดงถึงความมั่นคงของบริษัทฯ และรายการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปี 2558 เป็นการบันทึกบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ขณะที่รายได้จากการขายไฟฟ้าในปี 2558 มีจำนวน 51,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากปีก่อนหน้า รายได้จำนวนนี้มีสัดส่วนรายได้ของโรงไฟฟ้าราชบุรีและไตรเอนเนอจี้เป็นจำนวน 95.5% ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท
โดยในปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 59,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,423 ล้านบาทจากปี 2557 ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงินและการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้วมีกำไรปี 2558 จำนวน 3,188 ล้านบาท
“บริษัทฯ ยังเดินหน้าผลักดันมูลค่ากิจการให้เติบโต เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นและความยั่งยืนของบริษัทตามเป้าหมายแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว สำหรับผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในปี 2558 คณะกรรมการบริษัทได้เห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้ พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจำนวน 3,292 ล้านบาทจากกำไรของผลการดำเนินงานปี 2558 คิดเป็น 2.27 บาทต่อหุ้น” นายรัมย์กล่าว
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินจำนวน 1,595 ล้านบาท ในอัตรา 1.10 บาทต่อหุ้น คงเหลือจ่ายในงวดนี้ 1.17 บาทต่อหุ้น เป็นเงิน 1,697 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถจ่ายผู้ถือหุ้นได้ในวันที่ 27 เมษายน 2559