นครศรีธรรมราช - ชาวขนอม จ.นครศรีธรรมราช จำนวนมากร่วมตั้งเวทีคัดค้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก เตรียมรณรงค์ทุกบ้านติดป้ายหน้าบ้าน ยืนยันทำตามเจตนารมณ์รักษาสิ่งแวดล้อม และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดบางโหนด ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ได้มีประชาชนจำนวนหลายร้อยคนเข้าร่วมแสดงออกคัดค้านการเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในพื้นที่ อ.ขนอม โดยเฉพาะเป้าหมายของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่เลือกในพื้นที่บริเวณอ่าวท้องชิง และอ่าวเตล็ด ต.ท้องเนียน ที่มีสภาพทางนิเวศที่สวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งอย่างมาก
โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการส่งทีมสำรวจเข้ามาขุดเจาะสำรวจพื้นที่หาความเหมาะสมมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจที่จะประสานงานแจ้งกับท้องถิ่น หรือชาวบ้านในพื้นที่ให้ทราบถึงกิจกรรม ท่ามกลางความกังวล และสงสัยของชาวบ้าน ส่วนการเคลื่อนไหวคัดค้านของชาวขนอมในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงออกถึงการคัดค้านครั้งแรกของชาวขนอมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ขณะที่การปราศรัยชาวขนอมหลายภาคส่วนได้ร่วมกันขึ้นกล่าวบนเวที เรียกร้องให้ชาวขนอมเข้าร่วมการคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง โดยทุกคนนั้นเน้นถึงความสุภาพ และห้ามกล่าวร้าย หรือด่าทอผู้อื่น
ดร.มนู เมฆโสภาวรรณกุล วิศวกรสิ่งแวดล้อมผู้บริหารบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นแกนนำในการคัดค้าน ระบุว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และรัฐบาลเห็นว่า คนขนอมนิ่งเฉย ไม่มีการคัดค้าน แม้ว่าโรงไฟฟ้าในพื้นที่จะส่งผลต่อทะเล และระบบนิเวศ เรากำลังสงสัยว่า สาเหตุของความนิ่งเฉยต่อการไม่ใส่ใจในการรักษาสิ่งแวดล้อมของ กฟผ.ที่ปล่อยน้ำร้อนจากระบบหล่อเย็นในโรงไฟฟ้าขนอม ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 37-38 องศา ออกมาในทะเล จนสร้างผลกระทบโดยที่ไม่มีใครคัดค้าน จึงคิดที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แตกต่างกับโรงไฟฟ้าราชบุรี ที่ถูกควบคุมคุณภาพการปล่อยน้ำร้อนจากระบบหล่อเย็นอยู่ที่ 32 องศาเท่านั้น
ดร.มนู ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรา 44 นั้น ยืนยันว่าไม่ได้น่ากลัว เพียงแค่เป็นเครื่องมือของการทำให้ขั้นตอนของโครงการเป็นไปได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ จะต้องขึ้นอยู่กับผลการศึกษา รวมทั้งการทำประชาพิจารณ์ต้องเกิดขึ้นก่อน โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การรณรงค์เคลื่อนไหวคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากกลุ่มนักธุรกิจ และนักวิชาการที่เป็นชาวขนอม โดยได้สร้างความตื่นตัวให้แก่ชาวขนอมเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่มีแกนนำในการเคลื่อนไหว และหลังจากนี้ ได้มีการรณรงค์เพิ่มด้วยการให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันทำแผ่นป้ายแสดงออกถึงการคัดค้านโครงการที่หน้าบ้านของตัวเอง โดยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ท่ามกลางหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่เข้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
