ผู้จัดการรายวัน 360 - “ราคูเท็น ตลาดดอทคอม” เว็บไซต์บริการชอปปิ้งออนไลน์ชั้นนำของเมืองไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการชอปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยปี 2559 ที่จัดทำขึ้นตามนโยบายของ “ราคูเท็น ประเทศญี่ปุ่น” เพื่อยกระดับ e-market place เมืองไทย วางกลยุทธ์บุกตลาดต่างจังหวัดด้วยบริการเก็บเงินปลายทาง พร้อมเปลี่ยนแพลตฟอร์มเว็บไซต์สู่ระดับ Global Platform คาดลดกำแพงการค้าออนไลน์พร้อมติดอาวุธผู้ค้าสู่ระดับโลก
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Tarad.com หรือ “ราคูเท็นตลาดดอทคอม” เผยว่า “ราคูเท็น ประเทศญี่ปุ่น” มีนโยบายเจาะลึกพฤติกรรมการช็อปปิ้งออนไลน์ของลูกค้า โดยจัดทำในหลายๆ ประเทศที่มีบริษัทในเครือของ “ราคูเท็น” ตั้งแต่ปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้ เพื่อนำผลสำรวจดังกล่าวมาพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพของตัวเว็บไซต์และผู้ค้าออนไลน์ให้สามารถคัดเลือกสินค้าและจัดโปรโมชันให้ถูกใจกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการและรสนิยมที่หลากหลายได้อย่างครอบคลุมและสะดวกรวดเร็วที่สุด
แบบสำรวจพฤติกรรมนักช็อปออนไลน์ดังกล่าวพบว่า แนวโน้มการใช้จ่ายของนักช้อปออนไลน์ในไทยช่วงปี 2559 จะอยู่ที่ราว 1,270 บาทต่อเดือน โดยสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมและขายดีในช่วงปีนี้ยังคงเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น (24%) น้ำหอม (11%) เฟอร์นิเจอร์ (10%) อุปกรณ์ไอที (8%) อาหารและเครื่องดื่ม (6%) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทแก็ดเจ็ตไอถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับความนิยมสูงขึ้นอันเนื่องมาจากการมาของ 4G ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าถึงเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมไปถึงแก็ดเจ็ตเพื่อสุขภาพอย่างสมาร์ทวอชและแก็ดเจ็ตจำพวก Activity Tracker ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตอย่างน่าจับตามองเนื่องจากในปีที่ผ่านมาหลากหลายแบรนด์ได้ปล่อยรุ่นเด็ดๆ ออกมาแข่งขันกันมากมาย เป็นผลให้การซื้อ-ขายสินค้าประเภทนี้เป็นที่น่าจับตามองในปีนี้
ปัจจัยหลักที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทย คือ การรีวิวของลูกค้าผู้ใช้สินค้านั้นๆ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสูงถึง 44% รองลงมาที่ 20% คือราคาสินค้าที่ถูกกว่าถึงตามท้องตลาด ขณะที่ผลสำรวจยังพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าออนไลน์ในส่วนของช่องทางการสื่อสารที่สามารถกระตุ้นให้คนไทยช้อปออนไลน์คือตัวเว็บไซต์ของร้านนั้นๆ ที่มีสัดส่วนสูงถึง 60% รองลงมาคือโทรทัศน์และโซเชียลมีเดียมีกำลังในการกระตุ้นผู้ซื้อเท่าๆ กัน
ในปี 2559 “ราคูเท็น ตลาดดอทคอม” ยังคงเน้นสินค้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นกว่าที่ปีผ่านมา เนื่องจากทางเว็บไซต์ได้พัฒนาบริการเก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery ที่ลูกค้าสามารถรับกับมือและเห็นสินค้าก่อนจ่ายเงิน เพิ่มความมั่นใจก่อนทำการชำระเงินปลายทางด้วยระบบใหม่นี้ พร้อมแผนรับมือกับผู้ซื้อในระดับอาเซียนการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มเว็บไซต์เพื่อเข้าสู่ระดับ Global Platform ซึ่งส่งผลดีต่อการเข้าถึงลูกค้าทั้งในประเทศและทั่วทั้งอาเซียน
การเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มครั้งนี้ยังเป็นการยกมาตรฐานของ e-Commerce Platform ตามมาตรฐานระดับโลก ทั้งในแง่ของรูปแบบเว็บไซต์ที่ค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้นและความง่ายของการเข้าถึงร้านค้าทั่วโลกของ Rakuten ด้วยบัญชีสมาชิกเดียวกัน ทำให้ในอนาคตเหล่านักชอปสามารถช้อปข้ามประเทศในที่เดียวได้เลย และตัวแพลตฟอร์มนี้ยังจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยค้าขายกับต่างชาติได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงลูกค้าทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก ทำให้เกิดการค้าขายได้จากทั่วทุกมุมโลกสร้างผลประโยชน์และโอกาสทางการค้ามากมายที่ผู้ประกอบการไทยจะได้รับในอนาคตอันใกล้นี้