xs
xsm
sm
md
lg

“แป้งหอมศรีจันทร์” โหมต่างประเทศ ทุ่มงบ 80 ล้านรีแบรนด์รอบสอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“รวิศ หาญอุตสาหะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - แป้งหอม “ศรีจันทร์” ประกาศรีแบรนด์รอบสอง ใช้งบ 80 ล้านบาทสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในระดับพรีเมียม รับแผน 3 ปี ทำยอดขายรวม 1 พันล้านบาท พร้อมเพิ่มสัดส่วนต่างประเทศ 20% เน้นตลาดหลักที่จีนและกลุ่มประเทศ CLMV

นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งหอม “ศรีจันทร์” เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 6 เอสเคยู โดยในช่วงปลายปีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือแป้งฝุ่นสำหรับผู้ชาย สามารถทำยอดขายรวม 335 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30% ส่วนในปี 2559 ตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท พร้อมเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น 10 เอสเคยู ได้แก่ แป้งอัดแข็ง ครีมกันแดด และครีมรองพื้น ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค. เป็นต้นไป ก่อนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์สกินแคร์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ในปี 2559 บริษัทฯ ยังมีแผนรีแบรนด์อีกครั้งหลังจากที่เพิ่งรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 60 ปีเมื่อปี 2557 โดยครั้งนี้จะปรับภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัยและพรีเมียมมากขึ้น พร้อมใช้คำว่า “ศรีจันทร์” เป็นภาษาอังกฤษเพื่อรองรับแผนส่งออกซึ่งปัจจุบันเริ่มทำตลาดในประเทศไต้หวันก่อนที่จะเข้าสู่ประเทศจีนเป็นหลัก โดยยังจะเริ่มทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย เช่น กัมพูชา ลาว เวียดนาม และพม่า

“ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพียง 2-3% แต่มีแผน 3 ปีในการเพิ่มรายได้ต่างประเทศเป็น 20% รวมทั้งกำหนดยอดขายรวม 1 พันล้านบาท พร้อมนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2562 ทั้งยังเตรียมขยายโรงงานใหม่แต่ยังไม่สรุปรายละเอียดว่าจะมีขนาดและใช้เงินลงทุนเท่าใด โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความพร้อมมากที่สุด”

นายรวิศ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ เตรียมใช้งบประมาณการตลาด 70-80 ล้านบาทเพื่อรองรับกับการรีแบรนด์ครั้งนี้ โดยเน้นการใช้สื่อออนไลน์สูงถึง 50% ในลักษณะของการพัฒนาวิดีโอคอนเท้นต์ โดยจะมีการใช้สื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ลดน้อยลง เพื่อไปใช้สื่อนอกบ้านที่สามารถเชื่อมโยงกับระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น โดยจะเน้นพื้นที่เป้าหมายคือสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเจาะกลุ่มชาวต่างชาติ และกรุงเทพฯ ชั้นใน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนเมือง

“เหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากการรีแบรนด์เมื่อปี 2557 ทำให้กลุ่มเป้าหมายเดิมของเราคือผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปในต่างจังหวัด เปลี่ยนแปลงเป็นผู้หญิงอายุ 15-40 ปีและอยู่ในเขตเมือง มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยในการใช้โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน โดยมีพฤติกรรมการชมโทรทัศน์น้อยลง ขณะเดียวกันช่องทางจัดจำหน่ายยังเปลี่ยนแปลงเป็นโมเดิร์นเทรด 75% และเทรดดิชันนัลเทรด 25% จึงทำให้บริษัทฯ เน้นสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายด้วยการประชาสัมพันธ์ว่าสินค้ามีจำหน่ายที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและวัตสัน ซึ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่ทำยอดขายได้มากที่สุด”

นายรวิศ กล่าวด้วยว่า จากภาวะกำลังซื้อที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2558 จนส่งผลให้ปัจจุบันธุรกิจหลายๆ ประเภทยังคงชะลอการใช้งบประมาณด้านการใช้สื่อ บริษัทฯ จึงฉวยโอกาสนี้จองพื้นที่สื่อต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยเห็นว่าหากภาครัฐมีการเร่งผลักดันการใช้จ่ายในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็วจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับคืนมาได้ โดยมีความคาดหวังว่าภาวะกำลังซื้อจะกลับไปอยู่ในระดับเดียวกันกับไตรมาสแรกของปี 2558 และไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง



กำลังโหลดความคิดเห็น