“อาคม” ติดเครื่อง 20 โครงการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจประมูลได้หมดในปี 59 เผยรถไฟทางคู่ 2 สาย “มาบกะเบา-จิระ และประจวบฯ-ชุมพร” จ่อคิวชง ครม.อนุมัติแล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสีชมพูและสีเหลือง คาดกรรมการ PPP อนุมัติ ก.พ.นี้ เร่งเปิดประมูลได้ใน 5-6 เดือน พร้อมสั่งปรับวิธีการทำงานเพื่อเร่งเบิกจ่ายงบปี 59 ขีดเส้นเซ็นสัญญาหมดใน ม.ค. 59
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ภายใต้กรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ จำนวน 20 โครงการว่า การดำเนินงานทุกโครงการยังอยู่ในแผนงาน และมั่นใจว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 2559 ทั้งหมด
ขณะนี้โครงการที่เสนอไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว คือ รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,853.18 ล้านบาท หลังจากได้รับอนุมัติรายงาน EIA แล้ว และรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,290.63 ล้านบาท เสนอไปที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว จากนั้นจะเสนอ ครม.ต่อไป
นอกจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 56,690.99 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 54,644 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการตามมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP Fast Track) นั้น กระทรวงได้ส่งเรื่องไปสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว คาดว่า สคร.จะประมวลเรื่องเสนอคณะกรรมการนโยบาย PPP และ ครม.พิจารณาเห็นชอบภายในเดือน ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะเข้าสู่การประกวดราคา โดยจะใช้เวลาในการจัดทำทีโออาร์ประมาณ 5-6 เดือน และเปิดประกวดราคาได้
ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงิน 51,607.17 ล้านบาท ซึ่งมีการแบ่งออกเป็น 7 สัญญา จะประกวดราคาในเดือน มี.ค. 2559 ซึ่งถือว่าล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย เนื่องจาก ทอท.จะต้องส่งเอกสารประกวดราคาให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) อนุมัติก่อน รวมถึงเป็นโครงการที่เข้าร่วมเป็นโครงการต้นแบบตามโครงการของ Construction Sector Transparency Initiative (CoST) ด้วย จึงอาจจะมีขั้นตอนที่ทำให้ต้องล่าช้าไปบ้าง ส่วนการติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2559 หลังจบไตรมาสที่ 1 ปี 2559 (ต.ค. 58-ธ.ค. 58)
นายอาคมกล่าวว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายจะยังล่าช้ากว่าแผน ซึ่งงานของคมนาคมนั้น ช่วงไตรมาสแรกจะยังเบิกจ่ายไม่ได้มากนัก แต่จะสามารถเบิกจ่ายงบได้เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 และเบิกจ่ายได้เต็มที่ในไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้เพื่อเร่งรัดการประกวดราคาและทำสัญญาเพื่อผูกพันโครงการให้ครบภายในเดือน ม.ค. 2559 ได้ให้ปรับวิธีการทำงานใหม่ โดยส่งทีโออาร์และราคากลางไปยังสำนักงบประมาณก่อน โดยไม่ต้องรอให้ประกวดราคาเสร็จก่อนเพื่อเร่งรัดกระบวนการให้เร็วขึ้น จากเดิมที่จะต้องรอให้ประกวดราคาแล้วเสร็จก่อนจึงเสนอวงเงินงานโยธาให้สำนักงบประมาณเห็นชอบ ซึ่งหากทำแบบเดิมจะใช้เวลามากและจะลงนามสัญญาไม่ได้ในเดือน ม.ค. 2559