“พาณิชย์” เกาะติด ตามดูค่าบริการขนส่งลดราคาตามต้นทุนดีเซลที่ลดลงแล้วหรือยัง หลังรับปากดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นไป พร้อมสำรวจสินค้าที่ได้รับอานิสงส์ดีเซลลด หากพบต้นทุนลดอย่างมีนัยสำคัญเตรียมเรียกผู้ผลิตหารือปรับลดราคาทันที เล็งจัดธงฟ้าลดพิเศษสุด 40% ช่วยชาวสวนยาง ส่วนข้าวถุง อคส.อยู่ระหว่างการจัดทำ
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการปรับลดราคาค่าบริการขนส่ง หลังจากที่กรมฯ ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาค่าบริการลงมาตามต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ลดลง 5-10% ตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นไป จึงต้องมีการติดตามว่าได้ปรับลดราคาลงมาตามที่ตกลงไว้หรือไม่ และมีผลทำให้ต้นทุนราคาสินค้าในตลาดลดลงเท่าไร ซึ่งหากพบว่าการปรับลดค่าบริการขนส่งได้ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ กรมฯ จะเชิญผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าหมวดวัสดุก่อสร้างมาหารือเพื่อขอความร่วมมือปรับลดราคาตามต้นทุนที่ลดลงต่อไป
“ขณะนี้กรมฯ กำลังติดตามดูว่าหลังจากที่ได้หารือกันและตกลงที่จะปรับลดราคาแล้ว มีการปรับลดราคาลงมาจริงหรือไม่ ปรับลดไปแล้วเท่าไร และปัจจุบันน้ำมันดีเซลได้ลดลงไปอีกต่ำกว่าลิตรละ 20 บาท ก็จะตามไปดูว่ามีผลทำให้ต้นทุนลดลงอีกมากน้อยแค่ไหน ถ้าลดลงมากก็จะต้องผลักดันให้สินค้าลดราคาต่อไป แต่ถ้ายังไม่มีการปรับลดราคาตามกลไกก็จะเรียกมาคุยเพื่อให้ลดลงให้ได้” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราภาคใต้ กรมฯ ได้ส่งงบที่ใช้ดำเนินการสินค้าธงฟ้าให้กับจังหวัดที่มีการปลูกยาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนำสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดลงไปจำหน่ายให้แก่เกษตรกรภาคใต้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดและต่ำกว่าการจัดธงฟ้าปกติ โดยราคาสินค้าที่นำไปจำหน่ายจะลดลงมากกว่า 40% มีทั้งข้าวสาร น้ำมันพืช และไข่ไก่ เป็นต้น ซึ่งใช้งบประมาณ 17 ล้านบาท จากงบธงฟ้าทั่วประเทศ 200 ล้านบาท
“สินค้าธงฟ้าที่นำไปจำหน่ายให้แก่ผู้ปลูกยางตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการจัดโปรโมชันพิเศษมากกว่าทุกครั้ง เพราะปกติสินค้าธงฟ้าราคาจะต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป 20-40% แต่ครั้งนี้จะลดมากกว่า 40% ขึ้นไป” น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า ส่วนการจัดทำข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัม (กก.) เพื่อแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเป็นผู้ดำเนินการจัดทำ โดยใช้ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลมาดำเนินการ ตั้งเป้าจัดทำทั้งหมด 4 ล้านถุง แจกจ่ายครัวเรือนละ 5 ถุง เชื่อว่าปริมาณข้าวดังกล่าวจะครอบคลุมกับจำนวนครัวเรือนของเกษตรกรผู้ปลูกยาง ซึ่งหลังจากที่จัดทำข้าวถุงเสร็จแล้ว อคส.จะจัดส่งไปให้ผู้ว่าราชการจัดหวัดเพื่อนำไปแจกจ่ายให้เกษตรกรผู้ปลูกยางตามบัญชีที่มีอยู่แต่ละจังหวัดต่อไป
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือสมาคมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับภาคการขนส่งสินค้าทางบก ให้ปรับลดค่าบริการขนส่งลงมาอย่างน้อย 5-10% ตามต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ส่งผลให้ต้นทุนด้านขนส่งต่อราคาสินค้าลดลง 12.5% หรือมีผลทำให้ต้นทุนสินค้าต่อหน่วยลดลงตั้งแต่ 20 สตางค์ถึง 5 บาท แต่สัดส่วนที่ลดลงขึ้นอยู่กับชนิดสินค้าและปริมาณสต๊อกสินค้าที่มีอยู่