“พาณิชย์” ถกผู้ประกอบการขนส่ง ลดค่าบริการลง 5-10% ส่งผลให้ราคาสินค้าลดลงตั้งแต่ 10 สตางค์ถึง 10 บาท มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 59 เป็นต้นไป เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ย้ำหากราคาน้ำมันลงอีก จ่อถกลดค่าขนส่งและราคาสินค้าลงอีกเช่นกัน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางบกว่า ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและบริการยืนยันที่จะปรับลดค่าบริการขนส่งลง 5-10% ซึ่งจะช่วยลดราคาสินค้าลงตามต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลงเฉลี่ยตั้งแต่ 10 สตางค์ถึง 10 บาทต่อชิ้น ตามขนาดน้ำหนักของสินค้าและมูลค่าของสินค้า โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
“หลังจากที่ผู้ขนส่งยอมลดราคาขนส่งแล้ว กรมฯ จะแจ้งไปยังผู้จำหน่ายสินค้าให้ปรับลดลงราคาลงมาด้วย แต่สัดส่วนการลดราคา จะไม่เท่ากับต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง เพราะค่าขนส่งจะเป็นต้นทุนของสินค้า 12-13% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด การที่ค่าขนส่งลดลง 5-10% ราคาสินค้าก็น่าจะลดลงได้ 1-2% เพราะต้นทุนอย่างอื่นไม่ได้ลดลงตาม เช่น ค่าแรง วัตถุดิบ”
ทั้งนี้ การปรับลดราคาสินค้าในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาสินค้าลงมาแล้ว 2 ครั้ง และกำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง หากมีการปรับลดลงอีก ก็จะหารือผู้ประกอบการขนส่งให้ลดราคาลงมา รวมถึงผู้ผลิตสินค้าให้มีการปรับลดราคาลงมาด้วย
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงจากเดิมลิตรละ 29.99 บาท เหลือลิตรละ 20.64 บาท หรือลดลง 31.18% ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าลดลงรวม 12-15% และต้นทุนสินค้าลดลง 1.2-2.25% ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภค 274 รายการ ลดลงประมาณ 2.08-39% เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, ข้าวสารบรรจุถุง, น้ำมันพืช, ปลากระป๋อง, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำปลา, ซอสปรุงรส, ผงชูรส เป็นต้น และหมวดวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น สายไฟฟ้า กระเบื้องมุงหลังคา เป็นต้น และน้ำมันหล่อลื่น
นอกจากนี้ ได้มีการปรับลดราคาปุ๋ยเคมีที่ใช้ในนาข้าวและพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ลดลงกระสอบละ (50 กก.) 35–70 บาท หรือลดลง 4.04-10.53% เช่น ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ปรับลดลงกระสอบละ 70 บาท หรือ 10.53% จากกระสอบละ 665 บาทเหลือกระสอบละ 595 บาท, ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช ราคาลดลง 8-10% และราคายางรถยนต์ จักรยานยนต์ รุ่นเดิมลดลง 5-10% เนื่องจากใช้ต้นทุนยางพาราในราคาเดิมประมาณ กก.ละ 77-80 บาท และรุ่นใหม่ ลดลง 16-39% เนื่องจากใช้ต้นทุนยางพาราในราคาปัจจุบัน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า ในส่วนของการลดค่าครองชีพประชาชน ได้มีการจัดงาน “เทใจ...คืนสุข...เทศกาลปีใหม่” โดยลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ในห้างค้าปลีก ค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ มากกว่า 13,000 สาขา ระหว่างวันที่ 17-27 ธ.ค.2558 ซึ่งลดราคาสินค้าสูงสุด 80% ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 10-50% , ของใช้ประจำวันลดลง 10-80%, เสื้อผ้า เครื่องครัว ลดสูงสุด 80%, เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง 20-80%, วัสดุก่อสร้าง ลดลง 10-50% คาดว่าจะมียอดขายสินค้าประมาณ 50,000 ล้านบาท สามารถลดค่าครองชีพประชาชนได้ประมาณ 15,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ได้มีการจัดงานธงฟ้าจำหน่ายสินค้าในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 20-40% ที่สนามธูปะเตมีย์ กองทัพอากาศ ในวันที่ 23-25 ธ.ค. 2558 และที่กระทรวงศึกษาธิการ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ในวันที่ 25-27 ธ.ค. 2558
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวอีกว่า ได้มีการกำกับดูแลราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันราคาคงเดิมที่จานชามละ 30-35 บาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช เนื้อหมู ราคาลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ค่าใช้จ่าย เช่น ค่าแรงงาน ค่าเช่า ค่าแก๊สหุงต้ม คงเดิม ขณะเดียวกันก็จะขยายโครงการ หนูณิชย์...พาชิม จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ในราคาจาน ชามละ 25-35 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและเป็นทางเลือกของประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 3,900 ร้านทั่วประเทศ และจะร่วมกับหอการค้าจังหวัด เพื่อเพิ่มร้าน หนูณิชย์...พาชิม โดยมีเป้าหมายไม่น้อยกว่า 10,000 ร้าน