กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดตั้งบริษัทใหม่ปี 58 ทะลุ 6 หมื่นรายตามคาด ส่วนยอดเลิก 2.2 หมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นค้าสลาก พร้อมตั้งเป้าปี 59 จดเพิ่ม 6-6.5 หมื่นราย หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว และรัฐกระตุ้น เล็งผลักดันจดทะเบียนอี-คอมเมิร์ซเพิ่มด้วย เป้า 6 หมื่นราย
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดในเดือน ธ.ค. 2558 มีจำนวน 3,237 ราย ลดลง 28% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และลดลง 3% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2557 ส่วนการเลิกกิจการมีจำนวน 5,805 ราย เพิ่มขึ้น 113% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2557 ซึ่งยอดจดเลิกที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการจดเลิกของธุรกิจค้าสลาก ที่กรมฯ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และยังเป็นการจดเลิก เพราะไม่อยากส่งงบการเงินปี 2558 เลยมาจดเลิกก่อน
ส่วนยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ของปี 2558 (ม.ค.-ธ.ค.) มีจำนวนรวม 60,147 ราย เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยในจำนวนนี้เป็นนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนต่ำกว่า 5 ล้านบาทมากถึง 97% และมียอดจดเลิกรวม 22,576 ราย เพิ่มขึ้น 19% ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจค้าสลากที่จดเลิกเกือบ 4 พันราย
ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2559 จะมียอดจดทะเบียนตั้งใหม่ 6-6.5 หมื่นราย ซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะเติบโต 3.5% และยังมีผลจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ โดยเฉพาะการช่วยเหลือ SMEs และผลดีจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของผู้บริโภคและนักลงทุน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ก็ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีน ราคาน้ำมัน และปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง และปัญหาใหม่จากเกาหลีเหนือ
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า สำหรับการให้บริการตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน DBD e-Service กรมฯ จะเพิ่มการตรวจสอบงบการเงินของนิติบุคคลได้ย้อนหลัง 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป และยังสามารถตรวจสอบบริษัทที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการให้บริการเพิ่มเติมหลังจากที่ก่อนหน้านี้สามารถตรวจสอบบริษัทที่มีความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ทั้งไม่ส่งงบการเงิน ไม่มีที่อยู่ชัดเจน หรือมีปัญหาในการทำธุรกิจมาแล้ว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ตั้งเป้าหมายในการผลักดันให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในปี 2559 เพิ่มเป็น 6 หมื่นราย จากปัจจุบันที่มีการจดทะเบียนแล้ว 1.6 หมื่นราย โดยได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมต่างๆ 150 สมาคม เพื่อขอความร่วมมือสมาชิกให้แจ้งสมาชิกให้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และยังได้ขอความร่วมมือไปยังตลาดกลางต่างๆ ให้ขอให้สมาชิกมาจดทะเบียนด้วย