“นายกฯ” ติงแผนติดตั้ง GPS รถโดยสารทุกคันยังล่าช้า “อาคม” ยอมรับมาตรการดูแลความปลอดภัยปีใหม่ 59 เข้มข้นมากแล้วแต่ยังใช้ไม่ได้ผล เหตุพฤติกรรมคนขับรถควบคุมยาก เดินหน้ามาตรการเมาแล้วขับยึดรถต่อเนื่อง พร้อมสั่งกรมขนส่งฯเข้มงวดมาตรฐานจุดศูนย์ถ่วงรถโดยสาร 2 ชั้น และเตรียมหามาตรการเลิกใช้ในอนาคตต่อไป
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ของกระทรวงคมนาคมว่า ในภาพรวมมีปริมาณการเดินทางของประชาชนจำนวน 12.71ล้านคน มากกว่าปี 2558 ประมาณ 3.2% โดยประชาชนเดินทางโดยเครื่องบินถึง 1.42 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึง 8.75% โดยในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายคมนาคมในปี 2559 มีจำนวน 1,356 ครั้ง มากกว่าปี 2558 ประมาณ 0.82% มีผู้บาดเจ็บ 230 คน มากกว่าปี 2558 ประมาณ 19.17% และมีผู้บาดเจ็บ 1,599 คน มากกว่าปี 2558 ประมาณ 3.63% โดยสาเหตุหลักมาจากการขับรถเร็ว 50% ตัดหน้ากระชั้นชิด 17.95% และเมาสุรา 8.68%
ทั้งนี้ จำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตช่วงปีใหม่ 2559 เพิ่มมากกว่าปีใหม่ 2558 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการขับขี่เป็นหลัก ซึ่งจะต้องเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น เช่น การปลูกฝัง วินัยจราจร จิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยกับเด็กนักเรียน รวมถึงบังคับใช้กฎหมายและบทลงโทษที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งมาตรการเมาแล้วขับยึดรถ ตามคำสั่ง คสช.จะยังดำเนินต่อไป ซึ่งในปี 2559 กระทรวงคมนาคมจะเน้นมาตรการความปลอดภัยทางถนน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีการเดินทางของประชาชนมากกว่าปีใหม่
นายอาคมกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ถามความคืบหน้ากรณีบังคับการติดตั้งเครื่อง GPS Tracking รถโดยสารสาธารณะทุกคันซึ่งเห็นว่าล่าช้ามากว่า 1 ปี โดยกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ดำเนินการเร่งรัดเพื่อบังคับกับรถโดยสารทุกคัน จากที่ก่อนหน้านี้ได้ติดตั้ง GPS กับรถบรรทุกวัตถุอันตรายรถลากจูงวัตถุอันตราย และขยายมาที่รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 800 คันเท่านั้น ส่วนรถโดยสารของเอกชน และรถโดยสารประเภทอื่นๆ ยังไม่มีการดำเนินการ พร้อมกันนี้จะมีการเพิ่มมาตรการบทลงโทษกับเจ้าของรถ และผู้จ้างบริการเพื่อให้ร่วมรับผิดชอบกรณีเกิดอุบัติเหตุด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นรถโดยสาร 2 ชั้นที่ค่อนข้างไม่ปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุบ่อย ซึ่งได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบจุดศูนย์ถ่วงและอนาคตจะหามาตรการในการทยอยเลิกใช้ เช่น ไม่จดทะเบียนเพิ่ม ส่วนรถเดิมจะต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย และหาทางให้ทยอยออกจากระบบ กรณี รถหมดอายุใช้งาน จะต้องเปลี่ยนใหม่เป็นรถชั้นเดียว แต่ภาครัฐคงต้องหามาตรการช่วยเหลือ และพิจารณาด้วยว่า รถที่หมดอายุแล้วจะเอาไปไหน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จำนวนอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้นในเทศกาลปีใหม่ 2559 นั้นเกิดจากผู้ขับขี่เป็นส่วนใหญ่ ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ควบคุมยาก เพราะในปีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีมาตรการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยอย่างมาก ดังนั้นจะต้องมาวิเคราะห์กันว่า จะต้องเพิ่มมาตรการใดอีก รวมถึงการปรับปรุงกายภาพถนนที่เป็นจุดอันตรายเพิ่มเติม เป็นต้น
กรมขนส่งฯ ออกประกาศบังคับรถโดยสารทุกคันติด GPS ภายในปี 60
ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กรณีการติด GPS นั้นขณะนี้กรมขนส่งฯ ได้ออกประกาศ โดยอาศัยกฎกระทรวงบังคับให้รถโดยสารทุกประเภทที่จดทะเบียนเดิม ยกเว้นรถเมล์ใน กทม.ต้องติด GPS ให้เรียบร้อยภายในปี 2560 ส่วนรถใหม่ที่ขอจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2559 จะต้องติดตั้ง GPS พร้อมอุปกรณ์ติดตามจึงจะได้รับการจดทะเบียน ส่วนรถโดยสาร 2 ชั้นนั้น ปัจจุบันมีประมาณ 20,000 คัน โดยเป็นรถเก่าที่จดทะเบียนก่อนมีมาตรการทดสอบมาตรฐาน ในเดือน ม.ค. 2556 มีประมาณ 4,800 คัน รถส่วนนี้จะต้องผ่านการทดสอบการทรงตัวที่ความลาดชันที่ 30 องศา ตามมาตรฐานจึงจะได้รับการต่อทะเบียน ส่วนรถที่จดทะเบียนหลัง ม.ค. 2556 ผ่านการทดสอบมาตรฐานแล้ว ทั้งนี้ รถที่สูงเกิน 3.60 เมตร จะต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานรถประเภท 2 ชั้น โดยเน้นเรื่องการทรงตัว