บขส.สั่งปรับเจ้าของรถร่วม 3 ราย หลังตรวจสอบพบว่ามีการจำหน่ายตั๋วเกินราคา ด้าน ขบ.เผยผลตรวจเข้มเจอคนขับรถมีสารเสพติด 1 ราย ตรวจแอลกอฮอล์เจอ 3 ราย สั่งเปลี่ยนตัวผู้ขับรถและดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนสภาพรถโดยสารไม่พร้อม 45 คัน และขับเร็วเกินกำหนด 63 คัน
วันนี้ (30 ธ.ค. 58) นายนพรัตน์ การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ตามที่มีผู้โดยสารร้องเรียนเรื่องการจำหน่ายตั๋วเกินราคา และส่งผู้โดยสารไม่ถึงปลายทางในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น บขส.ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลรถร่วมฯ บขส. จึงได้ทำการตรวจสอบ และพบว่ามีการกระทำผิดจริง จึงได้สั่งปรับเจ้าของรถร่วม บขส. ประกอบด้วย บริษัท ศรีทะวงศ์ จำกัด, บริษัท ทันจิตต์ทัวร์ จำกัด, บริษัท ชัยนาททัวร์ จำกัด ฐานเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนด ในอัตราโทษสูงสุดรายละ 10,000 บาท ทั้ง 3 ราย ส่วนบริษัท ศิริรัตนพล จำกัด (ขายตั๋ว ช่องที่ 1 ในนามบริษัท ณ.ศิริโค๊ช VIP จำกัด) ได้กระทำความผิดซ้ำ จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 10,000 บาท และให้ปิดช่องขายตั๋วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ บขส.ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลรถร่วม บขส. กรมการขนส่งทางบกในฐานะนายทะเบียนได้ทำการเปรียบเทียบปรับ บขส. เป็นเงิน 20,000 บาท
โดย บขส.พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ทำให้ผู้ประกอบการบางรายฉวยโอกาสและกระทำการเอารัดเอาเปรียบประชาชนได้ ดังนั้น หากประชาชนพบว่ามีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ซึ่งกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการเข้มงวดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอดรถ และจุดตรวจความพร้อม เฉพาะวันแรกของการเดินทาง (วันที่ 29 ธันวาคม 2558) ตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ จำนวน 12,082 ราย พบพนักงานขับรถมีสารเสพติด 1 ราย และตรวจพบแอลกอฮอล์ จำนวน 3 ราย จึงได้เปลี่ยนตัวผู้ขับรถและส่งตัวดำเนินการตามกฎหมายทันที นอกจากนี้ยังได้ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ จำนวนทั้งสิ้น 11,853 คัน พบรถโดยสารสาธารณะมีสภาพไม่พร้อมให้บริการ จำนวน 45 คัน ส่วนใหญ่เป็นความบกพร่องของกระจกข้าง/กระจกหน้า เบาะนั่ง สภาพยาง และอื่นๆ ซึ่งได้ให้ปรับแก้ไขในทันที ในกรณีไม่สามารถแก้ไขให้อุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ต้องจัดหารถคันใหม่มาทดแทน
สำหรับผลการตรวจจับความเร็วรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ภายใต้แนวความคิด “อุบัติเหตุลดได้ แค่ไม่ขับเร็ว” (Drive Safe Be Safe) ทั้งบนเส้นทางสายหลักและสายรองทั่วประเทศจากจำนวนรถ 5,153 คัน พบมีการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จำนวน 63 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 18 คัน รถโดยสารประจำทาง 15 คัน รถตู้โดยสาร 12 คัน นอกนั้นเป็นรถบรรทุกและรถประเภทอื่นๆ ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย สำหรับการตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถบนถนนสายหลักทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 11 จุด ที่จังหวัดลำปาง กำแพงเพชร พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง ได้ดำเนินการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะจำนวน 1,705 คัน พบความบกพร่องจำนวน 15 คัน เป็นการดัดแปลงจำนวนที่นั่งหรือเสริมเบาะที่นั่ง 5 คัน และเป็นความบกพร่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย คือ กระจกแตกร้าว ถังดับเพลิงชำรุด และระบบไฟบกพร่อง จำนวน 10 คัน และยังได้ตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ พบการกระทำผิดทั้งสิ้น 10 ราย เป็นการกระทำความผิดโดยขับรถประมาทหวาดเสียว 9 ราย และนำรถออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย โดยได้ดำเนินการตามกฎหมายเปรียบเทียบปรับแล้วทันที
ทั้งนี้ ในวันแรกของเทศกาลปีใหม่มีอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะเกิดขึ้น 1 ครั้ง โดยเกิดจากพนักงานขับรถตู้โดยสารขับรถด้วยความเร็วสูงจึงทำให้รถหลุดโค้งและพลิกคว่ำแต่ไม่มีผู้โดยสารจึงทำให้ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต กรมการขนส่งทางบกเล็งเห็นว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนให้ความสำคัญต่อการขับขี่ตามกฎจราจรและขับขี่อย่างปลอดภัยในเทศกาลปีใหม่นี้ พบเห็นรถโดยสารสาธารณะขับขี่ไม่ปลอดภัย รถโดยสารสาธารณะขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง