“กรมการขนส่งทางบก” เพิกถอนใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตประกอบการขนส่ง กรณีอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังตรวจสอบพบพฤติกรรมขับรถโดยประมาท พร้อมส่งตัวพนักงานขับรถดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ประกอบการถูกเพิกถอนใบอนุญาตด้วย ขนส่งฯ รณรงค์ปีใหม่ “Drive Safe Be Safe อุบัติเหตุลดได้ แค่ไม่ขับเร็ว”
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบสาเหตุอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำที่บ้านปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาซึ่งมีทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวน 11 รายว่า เป็นการขับรถโดยประมาท เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นถนน 2 เลน ไหล่ทางแคบและเป็นช่วงทางลงเขาระยะทางยาว 4 กิโลเมตร ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังในการควบคุมรถ แต่ผู้ขับขี่ขับรถมาด้วยความเร็วสูงทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้และเฉี่ยวชนรถยนต์คันอื่นก่อนพุ่งตกลงข้างทาง ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ขับขี่ขับรถด้วยความประมาท ขาดความระมัดระวังจนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสาร ทั้งยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของประเทศ
โดยกรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการลงโทษทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการขนส่งขั้นเด็ดขาดทันที ด้วยการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถของนายสมพร บัวหลวง ซึ่งถือใบอนุญาตผู้ขับรถชนิดที่ 2 เลขที่ 3 ชม.0025/2553 สิ้นอายุวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 พร้อมส่งตัวเข้าดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนผู้ประกอบการขนส่งนั้นได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง เนื่องจากกระทำผิดข้อกำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งกรณีไม่ควบคุม กำกับ ดูแลให้ผู้ขับรถต้องขับรถด้วยความเร็วไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จนเป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้จะติดตามกำกับติดตามการเยียวยาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตทุกราย
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมการขนส่งทางบกได้ตรวจเข้มทั้งพนักงานขับรถและสภาพตัวรถ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งในการตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถในสังกัดอย่างเคร่งครัด ต้องไม่ใช้ความเร็วหรือมีชั่วโมงการทำงานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พนักงานขับรถจะต้องได้รับการพักผ่อนเพียงพอ กรณีที่ผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทางมาให้บริการเสริมต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ต้องใช้ผู้ขับรถต้องมีความชำนาญในเส้นทาง และเข้าตรวจในจุดตรวจของกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้ หากพบผู้ขับรถใช้ความเร็วหรือขับขี่รถโดยประมาทลงโทษหนักทุกราย หรือหากพบสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ ต้องเปลี่ยนพนักงานขับรถทันที และจะถูกส่งตัวเข้าดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีเกิดอุบัติเหตุอันเกิดจากสภาพตัวรถหรือการละเลยการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบทุกกรณี และอาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้
โดยวันที่ 23 ธ.ค. นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้เป็นประธานเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 พร้อมเปิดเวทีเสวนาความปลอดภัยทางถนน ในหัวข้อ “Drive Safe Be Safe อุบัติเหตุลดได้ แค่ไม่ขับเร็ว” เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างความตระหนักถึงอันตรายของการขับรถเร็ว และกำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะให้มีความปลอดภัย โดยตั้งเป้าลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารให้น้อยที่สุด ภายใต้การดำเนินการรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้นจริงจังทั่วประเทศ โดยเฉพาะการคุมเข้มตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถทุกคน “ไร้สารเสพติด และแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100%”
ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2558 - 4 มกราคม 2559 กำชับทุกหน่วยงานดำเนินการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะควบคู่กับการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ ณ จุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรอง สถานีขนส่งผู้โดยสาร หรือจุดจอด/พักรถ หากพบข้อบกพร่องของตัวรถที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย หากไม่สามารถแก้ไขความบกพร่องได้ต้องจัดหารถคันใหม่ทดแทนคันเดิมทันที และคุมเข้มตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคน หากตรวจสอบพบก่อนปฏิบัติหน้าที่ให้เปลี่ยนพนักงานขับรถทันที และกรณีตรวจพบขณะปฏิบัติหน้าที่มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบการขนส่งมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาทด้วย