ผู้จัดการรายวัน360 – “อิมแพ็ค” เร่งอัดโปรดมั่น ดึงลูกคาใช้พที่ หลังยอดจองช่วงเทสกาลต่ำวก่ปีท่แบ้ 10% เผยปี 58 มีผู้ใช้สถานที่จัด 1,000 งาน ครอบคลุมทั้งงานแสดงสินค้า การประชุม งานจัดเลี้ยง
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2558 ต่อเนื่อง มกราคม-กุมภาพันธ์ 2559 อิมแพ็ค มียอดจองจัดงานเลี้ยง ปาร์ตี้ และแต่งงานแล้วจำนวน 136 งาน แบ่งเป็นปาร์ตี้ 37 งาน แต่งงาน 77 งาน งานเลี้ยงนอกสถานที่ 22 งาน ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 10% ที่มีจำนวนยอดจองจัดงานเลี้ยงรวม 153 งาน โดยเป็นงานเลี้ยงประจำปีขององค์กรรัฐและบริษัทเอกชน รวม 40 งาน งานเลี้ยงนอกสถานที่ 27 งาน และงานแต่งงานมากที่สุด 86 งาน
"ยอดจองจัดงานเลี้ยงที่ลดลง เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว หลายบริษัทต้องพิจารณาถึงงบประมาณ ขนาดของการจัดงาน สถานที่ บริการอาหารและเครื่องดื่มที่คุ้มค่าสมราคา วันเวลาที่เหมาะสม และปัจจัยอื่นๆ มากยิ่งขึ้น"
ทั้งนี้อิมแพ็คได้จัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นยอดจัดงานเลี้ยงช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถึง 3 แพ็คเกจ ได้แก่ 1.) พูล ปาร์ตี้ (POOL Party) งานเลี้ยงสังสรรค์ส่วนตัวริมสระน้ำ ในงบประมาณ 30,000 บาท และ 50,000 บาท 2.) สปอร์ต แอนด์ แฟมิลี่ เดย์ (SPORT AND FAMILY DAY) รองรับองค์กรหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน จัดแข่งกีฬาและงานเลี้ยงประจำปี ซึ่งทั้งสองแพ็คเกจนี้สถานที่จัดงาน คือ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมพิเศษมากมาย และสำหรับกลุ่มแต่งงานกับแพ็คเกจที่ 3.) วิวาห์ตามใจฝัน จัดงานเลี้ยงแต่งงานในรูปแบบค็อกเทล ราคาเริ่มต้นเพียง 790 บาทต่อท่าน
โดยมั่นใจว่ายอดจองจัดเลี้ยงช่วงต้นปีหน้าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก และช่วยส่งเสริมรายได้รวมของอิมแพ็คเมื่อจบปีงบประมาณ 2558 ในเดือนมีนาคม 2559 ให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท
นางสาวกุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร กล่าวว่า ในปี 2558 “อิมแพ็ค” ยังคงมีลูกค้าใช้บริการสถานที่เพื่อจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ การประชุม ตลอดจนอีเวนต์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ที่มีผู้ร่วมงานตั้งแต่ 20 คนขึ้นไปจนถึง 2-3 หมื่นคน ประมาณ 1,000 งานซึ่งถือเป็นจำนวนปรกติของแต่ละปี โดยรูปแบบการจัดงานที่มีมากที่สุดคือคอนเสิร์ตต่างๆ ซึ่งมีการจัดมากกว่าปี 2557 ถึงหนึ่งเท่าตัว
ในปี 2558 อิมแพ็ค ยังคงมีรายได้หลักจากการจัดงานแสดงสินค้าแต่มีอัตราเติบโตไม่มากนัก รองลงไปคือการประชุมและงานจัดเลี้ยงต่างๆ ส่วนปี 2559 หวังว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยและเศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้นจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่มีผลทำให้ภาคเอกชนมีความตื่นตัวในการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ปัจจุบันประเทศไทยถือว่ามีความได้เปรียบด้านการจัดงานอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สูงกว่าประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยอาจเป็นรองเพียงเกาหลีใต้ ฮ่องกง และมาเก๊า แต่ปัจจัยเสี่ยงคืออัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและค่าเงินผันผวนในยูโรโซน
สำหรับจำนวนศูนย์จัดงานแสดงสินค้าที่ได้มาตรฐานในกรุงเทพฯ ซึ่งมี 3 แห่งในปัจจุบันน่าจะเพียงพอกับความต้องการแล้ว ในส่วนของ “อิมแพ็ค” ล่าสุดคือการลงทุน 1,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่จอดรถอีก 700-800 คัน