xs
xsm
sm
md
lg

“สิงห์” จ่อลุยสแน็กชาเขียว จ่อผุด รร.-สวนน้ำในสิงห์ปาร์ค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

   นายพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มารุเซ็น ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - “สิงห์” เดินเกมชาเขียว ปั้น “มารุเซ็น” เจาะตลาดโลก ยกเว้นญี่ปุ่น ผนึกเอเยนต์ลุย วางเป้ารายได้ 150 ล้านปีหน้า พร้อมเล็งต่อยอดสู่สแน็กชาเขียว และทำคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่งที่เชียงราย

นายพงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มารุเซ็น ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมทุนระหว่างบริษัท สิงห์ปาร์ค จำกัด ในเครือเบียร์สิงห์ กับมารุเซ็น ที เจแปน จากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในปี 2559 บริษัทฯจะรุกตลาดชาเขียวญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้ร่วมทุนกับญี่ปุ่นและเดินเครื่องผลิตในปีนี้แล้ว โดยเริ่มวางจำหน่ายสินค้าชาเขียว ล็อตแรกวันที่ 16 ธันวาคมนี้ โดยมีเป้าหมายหลักที่จะทำตลาดในไทยและทั่วโลก ยกเว้นในตลาดญี่ปุ่นที่มารุเซ็นยังคงทำตลาดเอง เนื่องจากบริษัทฯร่วมทุนนี้มีกำลังผลิตรองรับได้มาก ปัจจุบันอยู่ที่ 150,000 กิโลกรัมต่อปี หรือประมาณ 150 ตันต่ปี ซึ่งสามารถรองรับการผลิตได้สูงถึง 200 ตันต่อปีเมื่อเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต โดยโรงงานตั้งอยู่ที่โครงการสิงห์ปาร์คเชียงราย พื้นที่ 4 ไร่ และเตรียมสร้างโรงงานใหม่อีกพื้นที่ 10 ไร่ ลงทุนประมาณ 450 ล้านบาทไว้แล้ว ขณะที่ปลูกชาเขียวเองด้วยพื้นที่ 600 ไร่

สำหรับสินค้าล็อตแรกที่วางจำหน่าย คือ ชาเขียวต้นตำหรับแบบชง ชาเขียวชนิดซองสำเร็จรูปพร้อมชงเป็นชาเย็น และชาเขียวญี่ปุ่นชนิดผงมัทฉะ โดยเน้นตลาด 2 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ 1. กลุ่มบีทูบี ประกอบด้วยกลุ่มโฮเรก้า โรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหาร ธุรกิจบริการจัดเลี้ยง สัดส่วน 30% 2. กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป หรือบีทูซี ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด เช่น ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ และปีหน้าจะขยายช่องทางเพิ่มเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น กูร์เม่ต์มาร์เก็ต โฮมเฟรชมาร์ท ร้านเบเกอรี โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้าทั่วไป สัดส่วน 70% และอนาคตวางแผนรุกตลาดชาพร้อมดื่มหรืออาร์ทีดีด้วย



ผลิตภัณฑ์ชาเขียวมารุเซ็น
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นนี้นอกจากตลาดเมืองไทยแล้วยังมีเป้าหมายไปที่ตลาดอาเซียนด้วย แผนรุกตลาดอาเซียนจะมีทั้งร่วมมือผ่านทางบุญรอดเทรดดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล และเอเยนต์ในไทยที่มีศักยภาพเพียงพอ ตลาดหลักที่มอง คือ สิงคโปร์ มาเลซีย อินโดเนีเซีย พม่า ลาว เวียดนาม เป็นต้น นอกจากนั้นก็มีนักธุรกิจที่สนใจมาเจรจาเพื่อจะขอจำหน่ายในต่างประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ ที่เสนอมาขอเป็นดีลเลอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอยู่แล้ว ในปีแรกคือ 2559 คาดว่าจะมียอดขาย 150 ล้านบาท และภายใน 3 ปีคาดว่าจะเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท

นอกจากนั้นนยังมีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจชาไปยังสแน็ก หรือขนมขบเคี้ยวที่ทำจากชาเขียวด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้บริษัท เฮสโก้ ที่เป็นที่ปรึกษา ในการศึกษารายละเอียดและพัฒนา

นายพงษ์รัตน์กล่าวต่อถึงโครงการสิงห์ปาร์ค เชียงราย ด้วยว่า ทางกลุ่มสิงห์ต้องการให้โครงการนี้เป็นโครงการที่มีการพัฒนาต่อไปตลอดไม่สิ้นสุด จากร่นต่อรุ่นไปเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีผู้คนมาเที่ยวมากในเชียงรายนี้ เฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน ส่วนเที่ยวแบบฟาร์มทัวร์ประมาณ 1,200 คนต่อวัน โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 8,600 ไร่

ปัจจุบันนอกจากโรงงานและพื้นที่ปลูกชาเขียวแล้ว ยังมีการเที่ยวชมฟาร์ม มีกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการเล่นซิปไลน์ การไต่ผา มีการจัดคอนเสิร์ต มีร้านอาหาร และอนาคตเตรียมที่จะสร้างโรงแรม และวอเตอร์สปอร์ต ไว้บริการ และที่สำคัญยังมีโครงการที่จะร่วมมือกับทางเกษตรกรเชียงรายทำคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่งปลูกชาด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น