xs
xsm
sm
md
lg

“อิชิตัน” ส่ง 2 รสใหม่รุกอินโดนีเซีย ดึง 2 ดาราดังเป็นพรีเซ็นเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “อิชิตัน กรุ๊ป” เดินหน้ารุกตลาดเออีซี ดึงไอดอลอินโดฯ เปิดตัวยิ่งใหญ่ 2 รสชาติ “ฮันนี่ เลมอน” และ “ลิ้นจี่” หวังเพิ่มรายได้ 120 ล้านบาทใน 2 เดือนสุดท้ายของปี 58 โว 5 ปี ติด Top 10 ในตลาดเครื่องดื่มอินโดนีเซีย ก่อนผุดโรงงานใหม่ในอนาคต

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากได้ก่อตั้ง บริษัท พีที อิชิตัน อินโดนีเซีย จำกัด เมื่อปลายปี 2557 ซึ่งเป็นความร่วมมือ ระหว่าง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่มีประสบการณ์ด้านการตลาดและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตชาพร้อมดื่มจากประเทศไทย บริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด ที่มีความแข็งแกร่งด้านการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มและบริหารร้านสะดวกซื้อกลุ่ม “อัลฟ่ามาร์ท” ในอินโดนีเซียกว่า 1 หมื่นสาขา และ มิตซูบิชิ คอร์เปอร์เรชั่น บริษัทที่ทรงพลังด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น

ล่าสุด บริษัท พีที อิชิตัน อินโดนีเซีย จำกัด ได้จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยการวางจำหน่ายสินค้า “อิชิตัน กรีนที ฮันนี่ เลมอน” และ “อิชิตัน กรีนที ลิ้นจี่” ขนาดบรรจุ 420 มล. ราคา 4.9 พันรูเปียห์ (13 บาท) โดยมี “อัล กาซาลี” และ “เพวิตา เพียร์ซ” 2 ซูเปอร์สตาร์ชาวอินโดนีเซียเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยคาดว่าใน 2 เดือนสุดท้ายของปี 2558 ที่เริ่มวางจำหน่ายจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้ อิชิตันกรุ๊ป ไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท

“ผลิตภัณฑ์อิชิตันทั้ง 2 รสชาติแรกนำร่องเป็นการพัฒนารสชาติขึ้นใหม่โดยฝ่ายการตลาดและฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอิชิตัน อินโดนีเซีย เพื่อให้ถูกปากกลุ่มเป้าหมายชาวอินโดนีเซียอย่างแท้จริง โดยขั้นต้นวางจำหน่ายใน Alfamart, Alfamidi และร้านสะดวกซื้อชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย โดยมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายขึ้นแท่นท็อป 10 ของตลาดชาพร้อมดื่มประเทศอินโดนีเซียที่มีมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี จากนั้นในอนาคตยังมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานอีกหนึ่งแห่งในประเทศอินโดนีเซีย”

นายตัน กล่าวด้วยว่า อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากกว่า 250 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงานซึ่งมีกำลังซื้อสูง มีวัฒนธรรมการดื่มชาเป็นประจำคู่กับมื้ออาหาร และยังพร้อมเปิดรับเครื่องดื่มใหม่ๆ จึงเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับ “อิชิตัน กรุ๊ป” ที่จะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีก โดยในระยะแรกสินค้าทั้งหมดที่วางจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซียใช้ฐานการผลิตที่ “อิชิตัน กรีน แฟคทอรี่” จากประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบหลายด้าน ทั้งการใช้เทคโนโลยีการผลิตในระบบบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อซึ่งมีความสามารถผลิตเครื่องดื่มได้หลากหลาย อันจะเป็นการใช้ศักยภาพด้านกำลังการผลิตอย่างคุ้มค่า ส่งผลไปถึงการบริหารต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น