สภาองค์การนายจ้างฯ เผยผลสำรวจแนวโน้มการจ้างงานปี 2559 เบื้องต้นพบนายจ้างส่วนใหญ่เมินรับคนเพิ่ม ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้อัตราการใช้กำลังผลิตลดเหลือเพียง 58% หรือคนล้นงาน แถมส่วนใหญ่ไม่คิดจะปรับค่าแรงเพิ่ม มีเพียงเล็กน้อยที่คิดจะขึ้นและขึ้นไม่เกิน 5% เตรียมกางข้อมูลเป็นทางการ 16 ธ.ค.นี้
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า สภาองค์การนายจ้างฯ ได้ทำการสำรวจความเห็นของนายจ้างและผู้ประกอบการเกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานปี 2559 ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อที่จะเปิดแถลงวันที่ 16 ธ.ค.นี้ โดยเบื้องต้นพบว่านายจ้างส่วนใหญ่กว่า 70% มีนโยบายไม่รับพนักงานเพิ่มโดยยังคงอัตราเดิมไว้จากปี 2558 เช่นเดียวกับอัตราค่าจ้างที่ส่วนใหญ่ระบุไม่ขึ้น โดยจะคงอัตราปัจจุบันไปจนถึงกลางปี 2559 หลังจากนั้นจึงจะหารือภาพรวมอีกครั้ง
สำหรับการคงอัตรากำลังคนของนายจ้างสอดคล้องกับทิศทางของอัตราการใช้กำลังผลิตที่ปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับ 58% เท่านั้น ทำให้ยังเหลือกำลังการผลิตอีกพอสมควรที่จะขยับขึ้นได้ในปี 2559 ขณะที่ปัจจุบันลูกจ้างก็มีอัตราที่เกินงานที่มีอยู่ซึ่งนายจ้างก็พยายามรักษาเอาไว้โดยไม่ปลดออกหากไม่ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องจริงๆ อย่างไรก็ตาม จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2558 ทำให้แนวโน้มอัตราการว่างงานของไทยเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดยล่าสุดตัวเลขอัตราการว่างงานจากกระทรวงแรงงานเดือน ต.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 3.49 แสนคน เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9% สูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งอดีตในช่วงที่ผ่านมาหลายปีเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7% มากกว่า และเมื่อเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดจะเห็นว่าในจำนวนแรงงานดังกล่าวเป็นอัตราแรงงานที่ว่างงานใหม่อยู่ถึง 1.8 แสนคน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักที่แรงงานใหม่ว่างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องซึ่งสอดรับกับประกันสังคมที่ยอดขอขึ้นทะเบียนว่างงานเพื่อรับเงินชดเชยก็เพิ่มถึง 1.26 แสนคน สูงสุดรอบ 6 ปี
สำหรับการปรับอัตราเงินเดือนปี 2559 เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่นายจ้างระบุว่าไม่มีการพิจารณาปรับขึ้น โดยยังคงค่าจ้างเพื่อรอให้มีการหารืออัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ที่กระทรวงแรงงานได้หารือร่วมกับเอกชนไปแล้ว และระบุว่าจะมีการทบทวนในกลางปี 2559 อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกิจการที่อาจจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนให้บ้างแต่เป็นส่วนน้อย และหากจะขึ้นจะไม่เกิน 5% จากเงินเดือนเดิม