นายกฯ อ้อนนักลงทุนอย่าเพิ่งทิ้งไทย มั่นใจปูรากฐานพัฒนาเศรษฐกิจไว้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะมาตรการส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์และซูเปอร์คลัสเตอร์ พร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้าน ก.คลังเล็งจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันหมื่นล้านบาทหนุนอุตฯ เป้าหมายที่รัฐวางไว้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตไทย ก้าวไกลด้วยคลัสเตอร์” ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จัดขึ้น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมฟังกว่า 2,000 คนว่า ต้องการฝากให้นักลงทุนโดยเฉพาะต่างชาติอย่าเพิ่งทิ้งประเทศไทยไปไหน เพราะนโยบายที่รัฐบาลนี้ทำไว้จะเป็นการปูพื้นฐานของการพัฒนาประเทศในระยะยาว แม้ว่าขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานของไทย เช่น ท่าเรือ ระบบราง อาจยังไม่รองรับได้มากนักแต่ก็ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งปรับปรุงแล้ว รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้ว 1,923 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 6.93 แสนล้านบาท โดยหากนำมาตรการส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่ที่เป็นคลัสเตอร์และซูเปอร์คลัสเตอร์ระยะ 20 ปี ที่เน้นให้สิทธิประโยชน์แก่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หรืออุตสาหกรรมเกิดใหม่ มาปรับใช้กับโครงการเหล่านี้ จะช่วยให้รายได้จากการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 1.03 ล้านล้านบาท ส่วนการใช้วัตถุดิบภายในประเทศจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 7.9 แสนล้านบาท
นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการร่างกฎหมายจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำมาจากเงินงบประมาณรวมกับเงินส่วนเกินจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. และเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้เร็วๆ นี้ อีกทั้งอยู่ระหว่างร่างกฎหมายยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่เข้ามาทำงานในไทย คาดว่า ครม.จะพิจารณาและบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ในเร็วๆ นี้
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอ ครม.ให้พิจารณาประกาศเพิ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 10-15 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักของประเทศรายได้ปานกลาง ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 5,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี เป็น 12,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีในอนาคต
