รองนายกฯ สมคิด นำทีมบีโอไอไปชักจูงการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นตอบรับเข้าร่วมงานสัมมนาใหญ่เกินคาด พร้อมพบปะหารือบริษัทชั้นนำจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เลขาธิการบีโอไอมั่นใจ มาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ โดนใจนักลงทุนญี่ปุ่นแน่นอน
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2558 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะของรัฐบาลไทยเดินทางไปชักจูงการลงทุน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีกิจกรรมสำคัญด้านการลงทุน ได้แก่ งานสัมมนา Thailand : Moving Forward to Sustainable Growth และการหารือกับบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น
สำหรับงานสัมมนา “Thailand : Moving Forward to Sustainable Growth” ขณะนี้มีนักธุรกิจญี่ปุ่นตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 1,000 ราย เกินกว่าที่คาดว่าจะมีผู้ตอบรับเข้าร่วมงานประมาณ 700 ราย ในงานสัมมนาครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีจะกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Thailand’s New Economic Policies” เพื่อชี้ให้เห็นภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน และแผนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่ประกอบไปด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทั้งในส่วนของบีโอไอและกระทรวงการคลัง และแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
นางหิรัญญากล่าวด้วยว่า มาตรการต่างๆ ที่รองนายกรัฐมนตรีและบีโอไอจะนำเสนอแก่นักธุรกิจญี่ปุ่น จะช่วยสร้างความมั่นใจและส่งผลให้เกิดการตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นในไทยส่วนใหญ่เป็นกิจการเป้าหมายที่รัฐบาลและบีโอไอต้องการผลักดันให้เกิดในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนตามนโยบายคลัสเตอร์
“มั่นใจว่าหากนักลงทุนญี่ปุ่นทราบรายละเอียดของนโยบายคลัสเตอร์ จะช่วยให้เขาสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผลิตได้ยาก หรือมีจำนวนผู้ผลิตอยู่น้อยรายในปัจจุบัน” นางหิรัญญากล่าว
สำหรับในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558 พบว่า ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในไทยสูงเป็นอันดับหนึ่งของการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ โดยมีมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท