โพลเผยผลสำรวจลอยกระทงปีนี้คึกคักสุดในรอบ 3 ปี คาดเงินสะพัด 1.1 หมื่นล้านบาท เหตุสินค้าส่วนใหญ่แพงขึ้น และยังได้ผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลที่ทำให้คนมองเศรษฐกิจพ้นจุดต่ำสุด และพร้อมเดินทางท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย คาดจีดีพีปีนี้มีโอกาสโตเกิน 3% หลังมาตรการกระตุ้นเริ่มส่งผล
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันลอยกระทง ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ย. 2558 จำนวน 1,208 ตัวอย่าง ว่า เทศกาลลอยกระทงในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่าย 11,413 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2549 เนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น และยังได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยประชาชนมองว่าเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว จึงพร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการตามสถานที่จัดงานต่างๆ
“บรรยากาศของเทศกาลลอยกระทงในปีนี้น่าจะคึกคักสุดในรอบ 3 ปี เห็นได้จากการที่ประชาชนได้วางแผนที่จะไปลอยกระทงตามสถานที่ที่มีการจัดงานลอยกระทงหรือตามสวนสาธารณะมากขึ้นจากปีก่อน และการไปลอยกระทงไกลบ้านก็จะทำให้เกิดการใช้จ่ายกันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีการใช้จ่ายรวม 4,082 ล้านบาท ขยายตัว 3.8% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากสุดรอบ 3 ปี และในต่างจังหวัดมูลค่า 7,425 ล้านบาท ขยายตัว 3.1% ขยายตัวมากสุดในรอบ 2 ปี”
สำหรับคำอธิษฐานให้ประเทศไทยในปัจจุบันเนื่องในเทศกาลลอยกระทง คือ ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีมีพระพลานามัยแข็งแรง, ขอให้ประเทศไทยสงบสุข คนไทยสามัคคีและรักกัน, ขอให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น, ขอให้ค่าครองชีพสอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับ และขอให้ปราศจากการคอร์รัปชัน เป็นต้น
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ศูนย์พยากรณ์ฯ ยังได้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้พบว่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวเกิน 3% จากเดิมที่ประมาณการไว้ 2.8-3.1% หากรัฐบาลมีการอัดฉีดงบประมาณลงสู่ระบบอีกรอบ โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงคมนาคมที่จะใช้งบประมาณในไตรมาสที่ 4 อีก 25,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างถนนและสาธารณูปโภคต่างๆ ได้ทั้งหมด ประกอบกับที่ผ่านมามีเม็ดเงินจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มลงสู่ระบบแล้วทั้งกองทุนหมู่บ้าน และการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
ทั้งนี้ ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประเมินจีดีพีที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 2.8% และรวมทั้ง 3 ไตรมาสอยู่ที่ 2.9% ดังนั้น ในไตรมาส 4 เชื่อว่ามาตรการต่างๆ ของรัฐบาลจะลงสู่ระบบมากขึ้น และอาจทำให้จีดีพีในไตรมาส 4 โต 3.7% ซึ่งจะทำให้จีดีพีทั้งปีโต 3.1% แต่หากไตรมาสที่ 4 โตแค่ 3.3% ก็จะทำให้จีดีพีทั้งปีโต 3% แต่ภาพรวมถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับเศรษฐกิจไทยที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว