ASTVผู้จัดการรายวัน - ไม่นิ่งนอนใจ บอร์ดสลากเตรียมถกปัญหาผู้ค้าในวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.นี้ เผยอาจจะลดยอดคำสั่งซื้อและคำสั่งจองสลากล่วงหน้าเหลือ 5-10 ฉบับต่อคนก็เป็นได้ เพื่อกระจายให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับสลากอีกมาก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 พ.ย.58 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสลากฯ เพื่อพิจารณาและประเมินสถานการณ์จากปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสลากฯ รายย่อย ที่ไม่สามารถหาซื้อสลากฯ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ โดยจะพิจารณาความต้องการสลากที่มากถึง 100 ล้านฉบับเป็นสัดส่วนที่มีความต้องการของประชาชนทั้งประเทศหรือไม่
คณะทำงานที่ออกไปสำรวจ พบว่าสลากที่ขายส่วนใหญ่ขายหมดอย่างรวดเร็ว จึงไม่แน่ชัดว่ามีการซื้อแบบกักตุนและขายใกล้วันสลากออกเพื่อโก่งราคาหรือไม่ ดังนั้น สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาและสำรวจให้เกิดความชัดเจนว่าสลากกว่า 26 ล้านฉบับที่หมดลงอย่างรวดเร็วไปอยู่ในมือผู้ค้าสลากรายย่อยหรือกลุ่มที่ต้องการซื้อไว้กักตุน
"เราไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาทางช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับสลากแต่ขณะนี้มีขั้นตอนที่จะต้องพิจารณา โดยการสั่งซื้อ-สั่งจองล่วงหน้าในเดือน ม.ค. 2559 การเพิ่มสลากจาก 26 ล้านฉบับ เป็น 44 ล้านฉบับ คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการ แต่สิ่งสำคัญต้องดูว่าเมื่อเพิ่มแล้วยังมีความต้องการสูงก็จะต้องมีมาตรการเข้มงวดโดยเฉพาะการตรวจสอบเอาผิดหรือหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาส" นายธนวรรธน์กล่าว
นอกจากนี้ จะไปตรวจสอบทรัพย์สินหรือการเสียภาษีของบุคคล เชื่อว่าสามารถดำเนินการได้ หลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งเบื้องต้นการแก้ไขปัญหาอาจจะลดยอดคำสั่งซื้อและคำสั่งจองสลากล่วงหน้า เหลือ 5-10 ฉบับต่อคน เพื่อกระจายให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับสลาก แต่การดำเนินการทั้งหมดคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯ ด้วย
"จากการที่ตอนนี้สลากฯ ขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ อ.วังสะพุง ทำให้สะท้อนว่าอาจจะมีความต้องการเกิน 100 ล้านฉบับ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความต้องการซื้อสลากที่เพิ่มขึ้นจริง หรือเกิดจากการกักตุนเพื่อฉวยโอกาสขึ้นราคาขายในช่วงวันออกรางวัล ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะสั่งตัดสิทธิ์การจำหน่ายสลากและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที" นายธนวรรธน์ กล่าว
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบทรัพย์สินหรือการเสียภาษีของบุคคล เพื่อป้องกันการเกิดนอมินีรับฝากซื้อเพื่อขายต่อและโก่งราคา ซึ่งช่องทางการสั่งซื้อสลากที่สะดวกสุดขณะนี้คือการสั่งซื้อผ่านธนาคารกรุงไทยในสาขาย่อย และสั่งจองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ค้ารายย่อยอาจต้องขอให้ลูกหลานที่ทำเป็นช่วยจองผ่านระบบให้เพื่อความรวดเร็ว .
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 พ.ย.58 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสลากฯ เพื่อพิจารณาและประเมินสถานการณ์จากปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสลากฯ รายย่อย ที่ไม่สามารถหาซื้อสลากฯ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ โดยจะพิจารณาความต้องการสลากที่มากถึง 100 ล้านฉบับเป็นสัดส่วนที่มีความต้องการของประชาชนทั้งประเทศหรือไม่
คณะทำงานที่ออกไปสำรวจ พบว่าสลากที่ขายส่วนใหญ่ขายหมดอย่างรวดเร็ว จึงไม่แน่ชัดว่ามีการซื้อแบบกักตุนและขายใกล้วันสลากออกเพื่อโก่งราคาหรือไม่ ดังนั้น สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาและสำรวจให้เกิดความชัดเจนว่าสลากกว่า 26 ล้านฉบับที่หมดลงอย่างรวดเร็วไปอยู่ในมือผู้ค้าสลากรายย่อยหรือกลุ่มที่ต้องการซื้อไว้กักตุน
"เราไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาทางช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับสลากแต่ขณะนี้มีขั้นตอนที่จะต้องพิจารณา โดยการสั่งซื้อ-สั่งจองล่วงหน้าในเดือน ม.ค. 2559 การเพิ่มสลากจาก 26 ล้านฉบับ เป็น 44 ล้านฉบับ คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการ แต่สิ่งสำคัญต้องดูว่าเมื่อเพิ่มแล้วยังมีความต้องการสูงก็จะต้องมีมาตรการเข้มงวดโดยเฉพาะการตรวจสอบเอาผิดหรือหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาส" นายธนวรรธน์กล่าว
นอกจากนี้ จะไปตรวจสอบทรัพย์สินหรือการเสียภาษีของบุคคล เชื่อว่าสามารถดำเนินการได้ หลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งเบื้องต้นการแก้ไขปัญหาอาจจะลดยอดคำสั่งซื้อและคำสั่งจองสลากล่วงหน้า เหลือ 5-10 ฉบับต่อคน เพื่อกระจายให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับสลาก แต่การดำเนินการทั้งหมดคงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯ ด้วย
"จากการที่ตอนนี้สลากฯ ขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ อ.วังสะพุง ทำให้สะท้อนว่าอาจจะมีความต้องการเกิน 100 ล้านฉบับ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความต้องการซื้อสลากที่เพิ่มขึ้นจริง หรือเกิดจากการกักตุนเพื่อฉวยโอกาสขึ้นราคาขายในช่วงวันออกรางวัล ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะสั่งตัดสิทธิ์การจำหน่ายสลากและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที" นายธนวรรธน์ กล่าว
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบทรัพย์สินหรือการเสียภาษีของบุคคล เพื่อป้องกันการเกิดนอมินีรับฝากซื้อเพื่อขายต่อและโก่งราคา ซึ่งช่องทางการสั่งซื้อสลากที่สะดวกสุดขณะนี้คือการสั่งซื้อผ่านธนาคารกรุงไทยในสาขาย่อย และสั่งจองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ค้ารายย่อยอาจต้องขอให้ลูกหลานที่ทำเป็นช่วยจองผ่านระบบให้เพื่อความรวดเร็ว .
