xs
xsm
sm
md
lg

อินโดฯ เปิดฟรีวีซ่า 90 ประเทศ มุ่งเป้านักท่องเที่ยว 20 ล้านคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียจัดงบ 96 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมเปิดฟรีวีซ่าจาก 15 ประเทศเป็น 90 ประเทศ หวังเพิ่มนักท่องเที่ยว 9.44 ล้านคนในปี 58 ก่อนแตะ 20 ล้านคนใน 2-3 ปี จัดงานใหญ่ในไทย “Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ 2” เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน

นายลุตฟี ราอุฟ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เปิดเผยภายในงาน “Wonderful Indonesia เปิดโลกมหัศจรรย์ อินโดนีเซีย สานสัมพันธ์อาเซียน ครั้งที่ 2” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13-15 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความรู้ความเข้าใจในส่วนของภาคประชาชนของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอินโดนีเซียกับไทยอีกด้วย

ภายในงานครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังได้ร่วมกับสถานทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย นำศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองซึ่งหาชมได้ยากมาเผยแพร่ เช่น การแสดงการเต้นรำพื้นเมือง Lenggang Ngai, Enggang Dancer และ Jepen Lenggang การแสดงแฟชั่นโชว์จากผ้าพื้นเมือง (ผ้าบาติก) โดยดีไซเนอร์ชื่อดังของอินโดนีเซีย นิทรรศการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวของประเทศอินโดนีเซีย และกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจอีกมากมาย

“กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย สถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และ คณะผู้จัดงานคาดหวังว่าผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้จะช่วยส่งเสริมให้ไทยและอินโดนีเซียมีสายสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและการเรียนรู้เข้าใจในสังคมและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น”

นายลุตฟี ราอุฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียมีการจัดสรรงบประมาณ 1.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 96 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอินโดนีเซียตลอดปี 2558 สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 4 เท่าตัว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซียจะมีจำนวน 9.44 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7%

กระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ถึง 20 ล้านคน ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า และคาดว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ของจีดีพีจากปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 9% และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอินโดนีเซียยังได้เปิดฟรีวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 75 ประเทศจากเดิม 15 ประเทศ เป็น 90 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย

นอกจากนั้นยังได้พัฒนาและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่น ทะเลสาบโทบา (Lake Toba) ทางเหนือของเกาะสุมาตรา, ภูเขาไฟโบรโม (Bromo) ในชวาตะวันออก, เมืองชายฝั่งทะเลมันดาลิกา ( Mandalika) ทางตะวันตกของหมู่เกาะนูสา เต็งการา (Nusa Tenggara), แหลมตันจุง เลซุง (Tanjung Lesung) ในจังหวัดบันเตน (Banten), เกาะโมโรไต (Morotai) ในหมู่เกาะมาลูกู (Maluku), หมู่เกาะพันเกาะนอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตา และยอกยาการ์ตา

นายลุตฟี ราอุฟ กล่าวด้วยว่า การรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ประเทศในภูมิภาคนี้กลายเป็นกลุ่มประเทศสำคัญของโลก และทำให้แต่ละประเทศมีการเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้นทั้งในด้านของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ถือเป็นความหลากหลายที่น่าสนใจและเป็นเสน่ห์ที่น่าค้นหาสำหรับการท่องเที่ยว นอกจากนั้น ความแตกต่างด้านภูมิประเทศยังทำให้แหล่งท่องเที่ยวในอาเซียนมีความหลากหลายและน่าสนใจอย่างมาก นับเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสนใจที่จะเดินทางเข้ามาพักผ่อนและค้นหาประสบการณ์ใหม่ ซึ่งหากประเทศสมาชิกมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ย่อมส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทุกประเทศสมาชิกอาเซียน















กำลังโหลดความคิดเห็น