การบินไทยแจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 3/58 ขาดทุนสุทธิ 9,894 ล้านบาท เพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายยังไม่เข้าเป้า บึ้มราชประสงค์ทำผู้โดยสารลด งัดสารพัดกลยุทธ์เพื่อฟื้นฟู บอร์ดอนุมัติลดเงินเดือนระดับบริหาร10% ด้าน “จรัมพร” ส่งข้อความถึงพนักงานขอความร่วมมือครั้งใหญ่เพื่อทำให้บริษัทพ้นวิกฤต
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) 2558 มีรายได้รวม 44,342 ล้านบาท ลดลง 2,029 ล้านบาท หรือ 4.4% จากปีก่อน จากรายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกินลดลง 3.3% และรายได้ค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์ลดลง 19.7% สาเหตุหลักที่รายได้ลดลงเนื่องจากรายได้เฉลี่ยต่อหน่วยลดลง (ค่าโดยสารลดลง 6.9% ค่าระวางขนส่งลดลง 5.2%) เนื่องมาจากการแข่งขันและค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันลดลง มีรายจ่ายรวม 47,128 ล้านบาท ขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นจำนวน 2,786 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าปีก่อน 27.3% โดยมีสาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายรวมลดลงจากปีก่อน 6.1% จากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ลดลงเป็นหลัก และมีรายการพิเศษจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบิน และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 4,631 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนสุทธิ 9,894 ล้านบาท
ส่วนผลดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 2558 มีรายได้รวม 137,715 ล้านบาท รายจ่ายรวม 138,063 ล้านบาท ขาดทุนจากธุรกิจการบิน 4,536 ล้านบาท ดีกว่าการขาดทุน 16,224 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 72%
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนปฏิรูปอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจาก 2 ไตรมาสแรกของปี 2558 ในช่วงไตรมาสนี้บริษัทฯ ได้ปลดระวางเครื่องบิน 1 ลำ (Airbus A330-300) และรับมอบเครื่องบินใหม่ 2 ลำ (Boeing 787-8 และ Boeing 777-300ER) ตามแผนปรับปรุงฝูงบิน (Fleet Strategy) ซึ่งทำให้ฝูงบิน ณ 30 กันยายน 2558 มีจำนวน 95 ลำ รวมทั้งจัดให้มีโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) สำหรับพนักงานทั่วไป และโครงการ Golden Handshake สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพื่อบริหารอัตรากำลังที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดเที่ยวบินและเส้นทางบิน ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนบุคลากร และลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการในรอบแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2558 จำนวน 428 คน
การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย การขยายตัวด้านเศรษฐกิจในบางประเทศ และการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีนจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของทางการจีน ทำให้ในไตรมาส 3 ของปี 2558 มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นจำนวน 8.99 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20.3% แต่จากเหตุการณ์บริเวณแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 ทำให้ผู้โดยสารในเดือน ก.ย. 2558 ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2558 ประมาณ 25.2% ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งทั้งสิ้น 5.15 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.8% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger-Kilometer : RPK) เพิ่มขึ้น 3.9% โดยมีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (Available Seat-Kilometer : ASK) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.8% จึงทำให้อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 74.4% สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 71.1% สำหรับการขนส่งสินค้าได้รับผลกระทบจากการส่งออกหดตัว ประกอบกับบริษัทฯ ได้ลดการผลิตจากการปลดประจำการเครื่องบินขนส่งสินค้า ทำให้ปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ลดลงจากปีก่อน 15.2%
นอกจากนี้ ยังมีรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบินจำนวน 99 ล้านบาท ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 4,532 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง 8-10% เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ต้นทุนทางการเงินสุทธิจำนวน 1,453 ล้านบาท ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2558 เป็นผลขาดทุนสุทธิ 9,894 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 9,901 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 4.54 บาท เปรียบเทียบกับกำไรต่อหุ้น 0.50 บาท เมื่อปีก่อน ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 300,436 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2557 จำนวน 6,831 ล้านบาท หรือ 2.2% โดยส่วนใหญ่จากการด้อยค่าของเครื่องบิน หนี้สินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เท่ากับ 280,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,278 ล้านบาท หรือ 5.4% และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 20,186 ล้านบาท ลดลง 21,110 ล้านบาท หรือ 51.1%
โดยวันที่ 11 พ.ย. ได้มีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มี นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เป็นประธาน ได้มีมติให้ปรับลดเงินเดือนระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จำนวน 8 คนลง 10% ในเดือนที่ผลประกอบการติดลบ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้ถึงสิ้นปี 2559 ส่วนการลดพนักงานนั้น คาดว่าในสิ้นปีจะลดได้ 1,200 คน
พร้อมกับรับทราบมาตรการเร่งด่วนในการปรับปรุงการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปบริษัทฯ ซึ่งเริ่มจากกลยุทธ์หยุดการขาดทุน ด้วยการลดเที่ยวบินที่ไม่ทำกำไร ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเน้นการหารายได้ ด้วยวิธีปรับปรุงกลยุทธ์การขาย และการหารายได้เสริมอื่นๆ แต่บริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบด้านอื่นๆ จากภายนอกในช่วงที่บริษัทฯ กำลังดำเนินการตามแผนปฏิรูป เช่น เหตุการณ์ที่ราชประสงค์และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ทำให้ผลการดำเนินงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งบริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทฯ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานความปลอดภัย และคุณภาพการให้บริการ โดยออกเป็นคำสั่งบริษัทฯ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้
1. มาตรการเร่งด่วนในการเพิ่มรายได้
บริษัทฯ ได้ปรับปรุงเส้นทางบินและเที่ยวบินของบริษัทฯ และมีมาตรการต่างๆ ในการเพิ่มรายได้ เพื่อให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น โดยพิจารณา Quality Revenue ทุกด้านให้เหมาะสมกับต้นทุน จัดเครื่องบินให้มีความเหมาะสมกับ Traffic เครือข่าย และเส้นทางบิน รวมทั้งบริหารจัดการทรัพย์สินเครื่องบินให้มีความคุ้มค่าทางธุรกิจมากขึ้น
2. มาตรการเร่งด่วนในการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ
บริษัทฯ ออกมาตรการเร่งด่วนในการลดค่าใช้จ่าย โดยให้ถือปฏิบัติในทันที โดยให้ชะลอการลงทุนที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยและลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและควบคุมพัสดุและสินค้าคงคลัง, ควบคุมและลดรายจ่าย อาทิ การบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Management) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการบริหารความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Fuel Hedging) เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเส้นทางการบิน (Route Expense) ปรับลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ควบคุมค่าใช้จ่ายการทำงานล่วงเวลา ปรับลดเงินบริจาค สนับสนุนและช่วยเหลือแก่องค์กรต่างๆ ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า นายจรัมพรได้ส่งข้อความถึงพนักงาน โดยระบุถึงผลประกอบการในปี 2558 ที่ยังต่ำกว่าเป้าหมายและอาจกระทบต่อสถานะการเงินของบริษัท โดยขอความร่วมมือจากพนักงานในการเร่งหารายได้ควบคุมค่าใช้จ่ายตามมาตรการเร่งด่วน พร้อมเปิดรับข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากพนักงานโดยตรงด้วยเพื่อให้การบินไทยกลับสู่องค์กรที่มั่นคงและยั่งยืน “ตราบใดที่พวกเราสู้ไม่ถอย ไม่ท้อแท้ ผมจะไม่ยอมให้บริษัทการบินไทยของเราต้องปิดตัวลงไปต่อหน้าต่อตาอย่างแน่นอน ผมจะร่วมกันกับพวกเราทุกคนทำให้การบินไทยพ้นจากวิกฤตและอยู่รอดอย่างยั่งยืน”
