ผู้นำอาเซียนนัดประกาศเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) พร้อมวางอนาคตอาเซียน 10 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และดึงดูดการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้น “อภิรดี” เผยต่อไปเน้นแก้อุปสรรคทางการค้า มาตรการกีดกัน เปิดเสรีภาคบริการ เล็งถกค่าโรมมิ่งในอาเซียนเป็นอัตราเดียวกันเพื่อหนุนการค้า จับตาผู้นำ รัฐมนตรีอาเซียนพบนักลงทุนนานาชาติ สร้างความเชื่อมั่น และหารือคู่เจรจารวม 8 ประเทศ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย. 2558 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 27 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำและประกาศการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2558 และประกาศวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนสำหรับ 10 ปีข้างหน้า (2559-2568) ว่าอาเซียนจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้จะมีการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 14 ซึ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีที่ดูแลภาพรวมเรื่อง AEC โดยจะมีการหารือถึงการดำเนินการตามแผนงานเพื่อการจัดตั้ง AEC โดยเฉพาะมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง ที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2558
ส่วนการกำหนดอนาคตของอาเซียนหลังปี 2558 ขณะนี้ในด้านเศรษฐกิจได้มีการจัดทำแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2025 ซึ่งเป็นการชี้ทิศทางการรวมตัวด้านเศรษฐกิจของอาเซียนในระยะ 10 ปีแล้ว โดยอาเซียนจะมุ่งเน้นการดำเนินงานที่ต่อเนื่อง และต่อยอดจากมาตรการเดิมให้มีประสิทธิภาพ เดินหน้ารวมตัวทางเศรษฐกิจทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึกมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือรายสาขา ให้ความสำคัญต่อวิสาหกิจรายย่อย ขนาดย่อม และขนาดกลาง (MSMEs) นวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน ดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ
“ตอนนี้อาเซียนมีภาษีส่วนใหญ่เป็น 0% แล้ว แต่ยังมีมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขให้หมดไป เพื่อทำให้การค้าสินค้ามีความคล่องตัว และยังมีเป้าหมายที่จะต้องเร่งเปิดเสรีภาคบริการให้มากกว่าปัจจุบัน ซึ่งอาเซียนจะมีการหารือกันต่อไป หลังจากเปิด AEC แล้ว”
นางอภิรดีกล่าวว่า การเปิดเสรีภาคบริการเร่งด่วนที่อาเซียนจะมีการหารือกัน และทุกประเทศเห็นด้วย ก็คือ การเปิดเสรีโทรคมนาคม โดยเฉพาะในเรื่องการคิดอัตราค่าโทรศัพท์ในอาเซียนที่ต้องเสียค่าโรมมิ่งในอัตราที่แพงมาก ซึ่งจะมีการหารือเพื่อปรับให้ลดลงและควรจะเป็นอัตราเดียวกันทั้งอาเซียน เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนการค้าขายในอาเซียนให้มีการขยายตัว และจะมีการเริ่มหารือกันตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป
ส่วนภาคบริการอื่นๆ ก็จะมีการหารือเพื่อให้มีการเปิดเสรีเพิ่มขึ้นจากการเปิดเสรีบริการชุดที่ 10 โดยมีเป้าหมายที่จะต้องมีการเปิดเสรีมากขึ้นไปกว่าเดิม
นางอภิรดีกล่าวว่า ระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียน มาเลเซียยังได้ร่วมกับบริษัท BlackRock ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐฯ เชิญผู้นำ คณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน หารือร่วมกับนักลงทุนนานาชาติ ผู้แทนจากธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจของอาเซียน การรวมตัวทางเศรษฐกิจและการเงินของอาเซียน การส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน และการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน
นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนยังมีกำหนดพบปะหารือกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ นิวซีแลนด์ อินเดีย ประเทศ+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) และประเทศ+8 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย รัสเซีย และสหรัฐฯ) รวมทั้งภาคธุรกิจ ได้แก่ สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน และสภาธุรกิจเอเชียตะวันออก และองค์การสหประชาชาติ
