เศรษฐกิจทรุด ทุบสื่อนอกบ้าน 7 พันล้านบาททรงตัวเท่าปีก่อน “คินเนติค” ฟันธงเทรนด์สื่อนอกบ้านยังอยู่ในช่วงขาขึ้น เหตุมีการปรับตัวตามเทคโนโลยี ฉลาดเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคแบบเจาะจงตัว ล่าสุดพบเอาต์ดอร์เริ่มปรับตัวสู่รูปแบบดิจิตอลบิลบอร์ดรับลูกค้าได้มากขึ้น เฉลี่ยราคาบริการลดลง 80%
นายสุรเชษฐ์ บำรุงสุข ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วิวัฒนาการการพัฒนารูปแบบสื่อนอกบ้าน ได้แก่ บิลบอร์ด ทรานซิท และอินสโตร์ จากเดิมที่เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว พอเข้าปี 2554 เริ่มเข้าสู่การสื่อสารสองทางระหว่างสื่อกับผู้บริโภค โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมต่อ จนมาถึงปัจจุบันการสื่อสารจะเป็นแบบเจาะกลุ่มผู้บริโภคผ่านอุปกรณ์สื่อสาร และในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2563 สื่อนอกบ้านจะมีการสื่อสารแบบสองทางระหว่างสื่อนอกบ้านที่ติดอุปกรณ์เทคโนโลยีกับผู้บริโภค
“ในปี 2020 สื่อนอกบ้านจะปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี พัฒนารูปแบบสื่อนอกบ้านมาสู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือทำให้เกิดการสื่อสารแบบสองทางระหว่างอุปกรณ์เทคโนโลยีกับผู้บริโภค ในลักษณะ one to one จากเดิมทุกอย่างเข้าสู่ยุคออนไลน์ จะกลายเป็น on world ทุกเรื่องและทุกอย่าง ทุกบริการจะมาอยู่บนมือถือหมด”
ทั้งนี้ มองว่าในอนาคตโอกาสของสื่อนอกบ้านประเภทสื่อทรานซิตและอินสโตร์จะมีโอกาสเติบโตสูงมากจากหลายปัจจัย เช่น การขยายตัวของรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน รวมถึงการขยายตัวของห้างสรรพสินค้า ส่วนบิลบอร์ดยังไปได้อยู่ แต่เฉพาะไพรม์โลเกชัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มบิลบอร์ด หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ยังคงมีความสำคัญอยู่และเริ่มมีการปรับตัวมาเป็นดิจิตอลบิลบอร์ดมากขึ้นจากเดิมที่สามารถรับลูกค้าได้รายเดียวมาเป็นคราวละหลายราย ทำให้ราคาโฆษณามีการปรับตัวลดลงตามไปด้วย เช่น ปกติจ่ายเดือนละ 2 ล้านบาท เป็นเดือนละ 2 แสนบาท หรือลดลงกว่า 80%
นายสุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า จากข้อมูลจาก “นีลเส็น คอมปะนี” ปีนี้สื่อนอกบ้านทั้งทรานซิต อินสโตร์ และบิลบอร์ด จะทรงตัวเท่าปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 7,009 ล้านบาท และในปีหน้าจากฐานสำรวจเดิมยังคงเชื่อว่ามูลค่ารวมจะเท่าเดิมเช่นกัน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อลดลง ชาวนาทำนาไม่ได้ น้ำไม่พอทำนาปรัง ทำให้กำลังซื้อลดลงเช่นกัน
ส่งผลให้ในไตรมาสสี่ของปีนี้พบว่าสื่อนอกบ้านค่อนข้างตกลงเนื่องจากลูกค้าตัดงบโฆษณาลง โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นกลุ่มแรกที่ตัดงบสื่อนอกบ้านลง แต่ทั้งนี้ในปีหน้าโดยเฉพาะบิลบอร์ดอาจจะเห็นตัวเลขที่โตก้าวกระโดด เนื่องจากเดิมฐานข้อมูลมาจาก 5 บริษัท ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 15-20 ราย ตัวเลขจึงดูโตขึ้น แต่หากเทียบจากฐานข้อมูลเดิมมั่นใจว่าเป็นตัวเลขที่ทรงตัว