วานนี้ (22ธ.ค.) พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฏหมาย (ศปมผ.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาแรงงานทาส ในการทำการประมง ภายหลังจากสหภาพอียูได้แจ้งเตือน ว่าได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจ 25 ชุด ในการตรวจสอบโดยมุ่งเป้าในพื้นที่ที่คาดว่าใช้แรงงานผิดกฎหมาย 101 ที่ ในพื้นที่ 125 โรงงานเป้าหมาย ร่วมกับกระทรวงแรงงานเปิดให้จดทะเบียนแรงงานเพิ่ม ทั้งแรงงานในทะเล และแรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ การดำเนินการทั้งหมดเราทำอย่างจริงจัง และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีสั่งการมายังผู้บัญชาการทหารเรือ ให้ใช้กำลังเต็มที่ ร่วมบูรณาการกำลังกองทัพบก ตำรวจ หรือ หน่วยงานอื่นๆได้โดยตรง ถือเป็นการทลายแรงงานผิดกฎหมายเห็นเป็นรูปธรรม พร้อมเรียกร้องไปถึงกลุ่มประมงจังหวัดปัตตานี ถือเป็นกลุ่มที่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย หากยังไม่ให้ความร่วมมือจะทำให้เกิดความเสียหายในภาพใหญ่ เพราะเป็นความเดือดร้อนแบบห่วงโซ่ ถ้าผิดคนหนึ่ง ทางอียูเอามาเป็นประเด็นในการกีดกันไม่ซื้อสินค้าประมง นั้นคือเศรษฐกิจในภาพประมงทั้งหมดล้มลง
"ส่วนประเด็นที่ทางอียูเพิ่มเติม แก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานนั้น หากยังไม่เร่งแก้ไขปัญหา เขาบอกว่าจะมาตรวจในเดือนมกราคม ปี 2559 นั้น อาจจะโดนใบแดง เราจึงเร่งดำเนินการตั้งแต่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ในการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างทันที ทั้งนี้ห่วงว่า ภาพข่าวต่างๆ ที่ออกไปและไม่ตรงกับความเป็นจริง ร่วมถึงกรณีปัญหา จ.ปัตตานี จะมีผลต่อการตัดสินใจของอียู เพราะเรื่องนี้ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ แม้ว่าเราจะมีข้อเท็จจริงอยู่ก็ตาม แต่การกระจายข่าวแบบนั้นของสื่อไม่ยุติธรรมกับคนทำงาน โดยเฉพาะกองทัพเรือ ครึ่งหนึ่งของการทำงานให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวเต็ม100% เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ อยากขอความยุติธรรมกับสื่อด้วย โดยเฉพาะสื่อประเทศไทย อย่าให้สื่อนอกใช้เป็นเครื่องมือในการนำเสนอสิ่งไม่ถูกต้องแล้วมาโจมตีประเทศไทย"พล.ร.ท.จุมพล กล่าว
พล.ร.ท.จุมพล ยังเปรียบเทียบให้เห็นถึงการส่งลูกเข้าไปใช้แรงงานในร้าน เคเอฟซี แม็คโดนอล ในยุโรป เพื่อฝึกลูก คิดเป็นแรงงานไป ซึ่งเหมือนกับ ในสังคมไทย เพราะฉะนั้นอย่าหยิบยกมาเป็นประเด็ตโจมตี เพราะไม่ยุติธรรม เพราะประเทศไทยมมีวัฒนธรรมการกินอยู่ และใช้แรงงานอย่างไร ยืนยันเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จริงจังต่อเนื่อง
"ส่วนประเด็นที่ทางอียูเพิ่มเติม แก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานนั้น หากยังไม่เร่งแก้ไขปัญหา เขาบอกว่าจะมาตรวจในเดือนมกราคม ปี 2559 นั้น อาจจะโดนใบแดง เราจึงเร่งดำเนินการตั้งแต่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ในการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างทันที ทั้งนี้ห่วงว่า ภาพข่าวต่างๆ ที่ออกไปและไม่ตรงกับความเป็นจริง ร่วมถึงกรณีปัญหา จ.ปัตตานี จะมีผลต่อการตัดสินใจของอียู เพราะเรื่องนี้ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ แม้ว่าเราจะมีข้อเท็จจริงอยู่ก็ตาม แต่การกระจายข่าวแบบนั้นของสื่อไม่ยุติธรรมกับคนทำงาน โดยเฉพาะกองทัพเรือ ครึ่งหนึ่งของการทำงานให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวเต็ม100% เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ อยากขอความยุติธรรมกับสื่อด้วย โดยเฉพาะสื่อประเทศไทย อย่าให้สื่อนอกใช้เป็นเครื่องมือในการนำเสนอสิ่งไม่ถูกต้องแล้วมาโจมตีประเทศไทย"พล.ร.ท.จุมพล กล่าว
พล.ร.ท.จุมพล ยังเปรียบเทียบให้เห็นถึงการส่งลูกเข้าไปใช้แรงงานในร้าน เคเอฟซี แม็คโดนอล ในยุโรป เพื่อฝึกลูก คิดเป็นแรงงานไป ซึ่งเหมือนกับ ในสังคมไทย เพราะฉะนั้นอย่าหยิบยกมาเป็นประเด็ตโจมตี เพราะไม่ยุติธรรม เพราะประเทศไทยมมีวัฒนธรรมการกินอยู่ และใช้แรงงานอย่างไร ยืนยันเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จริงจังต่อเนื่อง